สามผู้บริหารองค์กรกอล์ฟพร้อมเดินหน้าพัฒนาวงการกอล์ฟภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิค สู่อนาคต
27 ตุลาคม 2565 – สามผู้บริหารองค์กรกอล์ฟชั้นนำ ไทมูร์ ฮัสซัน อามิน ประธานสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก พร้อมด้วย มาร์ติน สลัมเบอร์ส ประธานบริหารของอาร์แอนด์เอ และ เฟร็ด ริดลีย์ ประธานออกัสตา เนชันแนล ผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ (เอเอซี) ร่วมแถลงข่าวถึงการจัดการแข่งขันครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทย ณ คลับเฮาส์ สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จ.ชลบุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2565 พร้อมเผยแนวทางพัฒนาการแข่งขันไปสู่ทิศทางแห่งอนาคต รวมถึงประกาศให้สนามรอยัล เมลเบิร์น กอล์ฟ คลับ ของออสเตรเลีย เป็นสนามสำหรับรายการนี้ในปี 2023
เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ เริ่มจัดแข่งขันในปี 2009 โดยสมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี) ร่วมกับ เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และ องค์กรกำกับดูแลกีฬากอล์ฟระหว่างประเทศ (เดอะ อาร์แอนด์เอ) นับเป็นการจัดการแข่งขันขึ้นเป็นครั้งที่ 13 แข่งขันระหว่างวันที่ 27-30 ตุลาคม 2565 ณ สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ โดยปีนี้เป็นการหวนกลับมาจัดการแข่งขันที่สนามแห่งนี้อีกครั้งในรอบ 10 ปีด้วย
ไทมูร์ ฮัสซัน อามิน กล่าวเปิดงานแถลงข่าวถึงการแข่งขัน เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ ว่า “ขอขอบคุณทุกความร่วมมือทั้งจากทาง อาร์แอนด์เอ และ เดอะมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนท์ ในการร่วมมือเป็นอย่างดี รายการนี้นับเป็นเวทีให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก ได้โอกาสแสดงฝีมือ สร้างสมประสบการณ์แข่งขันเพื่อต่อยอดสู่การเป็นมืออาชีพในอนาคต รวมถึงขอขอบคุณสนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ ถึงการร่วมมือเป็นอย่างดีจากสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ ที่ทำให้การแข่งขันในปีนี้เกิดขึ้นได้อย่างประทับใจ พร้อมกันนี้เรามีความภูมิใจที่จะประกาศว่าในปีหน้า เราจะเดินทางไปแข่งขันที่ สนามรอยัล เมลเบิร์น กอล์ฟ คลับ ประเทศออสเตรเลีย ที่หวนกลับไปจัดแข่งขันอีกครั้ง นับตั้งแต่เคยเป็นสนามแข่งขันรายการนี้เมื่อปี 2014 ซึ่งเรามั่นใจว่า ด้วยทั้งมาตรฐาน และการจัดการที่ยอดเยี่ยมจะทำให้การแข่งขันรายการนี้ในครั้งต่อไปจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีแน่นอน”
นอกจากนี้ประธาน เอพีจีซี ยังกล่าวเสริมอีกว่า “เป็นสิ่งดีที่แชมป์ของรายการนี้จะได้รับโอกาสสู่การแข่งขันสองรายการเมเจอร์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ นับเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตของนักกอล์ฟที่ได้รับโอกาส โดยเฉพาะการได้เห็นนักกอล์ฟอายุน้อยๆเหล่านี้แสดงฝีไม้ลายมือ แสดงให้เห็นว่ากอล์ฟได้พัฒนาเป็นวงกว้างขนาดไหน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเราในการทำงาน ยิ่งนักกอล์ฟเหล่านั้นเติบโตขึ้น มันก็จะได้มองย้อนไปถึงการที่พวกเขาก้าวมาถึงจุดนี้ได้เพราะมีการแข่งขันที่ดีในการเปิดโอกาสให้กับพวกเขาเหล่านั้น ซึ่งช่วยได้มากสำหรับนักกอล์ฟเหล่านี้ในการจะเติบโตขึ้นสู่การเป็นมืออาชีพต่อไป”
มาร์ติน สลัมเบอร์ส ผู้บริหารของ อาร์แอนด์เอ กล่าวถึงการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ว่า “น่าประทับใจ ทั้งมาตรฐานแข่งขัน มาตรฐานสนาม และมาตรฐานนักกอล์ฟที่เข้าร่วมแข่งขัน คงเป็นอีกสัปดาห์ที่สนุกแน่นอน และรู้สึกปลื้มใจที่ได้เห็น แคเมอรอน สมิธ ที่เคยผ่านการแข่งขันรายการนี้ สร้างประวัติศาสตร์ในการแข่งขัน ดิ โอเพ่น ที่เซนต์ แอนดรูว์ส ด้วย และคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่มีสไตล์การเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจมากคนหนึ่งด้วย”
“ตลอดช่วงเวลา 2-3 ปีหลังมานี้ เราได้ทำงานและประสานงานในการพัฒนาวงการกอล์ฟทั่ว เอเชีย-แปซิฟิก ร่วมกับ เดอะมาสเตอร์ส ทัวร์นาเม้นท์ ซึ่งสิ่งที่เราพยายามทำก็คือการสร้างเส้นทางที่เคยยากลำบากให้กับนักกอล์ฟเหล่านี้ได้รับโอกาส” สลัมเบอร์ส ทิ้งท้าย
ด้าน เฟร็ด ริดลี่ย์ ตัวแทนจาก เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนท์ กล่าวถึงการแข่งขันปีหน้าที่จะมีขึ้นที่ รอยัล เมลเบิร์น ว่า “สนามกอล์ฟ รอยัล เมลเบิร์น เป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟชั้นนำระดับโลก ที่เคยจัดการแข่งขันรายการใหญ่มาแล้วมากมาย ซึ่งจากความสำเร็จจากการจัดเมื่อปี 2014 ได้ฝากภาพอันน่าประทับใจไว้อย่างมากมาย นับเป็นสิ่งที่ดีในการเห็นสหพันธ์ พัฒนาเกมกอล์ฟไปสู่ทิศทางที่ดี เช่นเดียวกับที่ได้เห็นมาตรฐานแข่งขันที่สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ ในครั้งนี้ด้วย”
นอกจากนั้นประธาน เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนท์ กล่าวว่า “รู้สึกตื่นเต้นกับพัฒนาการของผู้เล่นนี้ที่ผ่านเวทีแข่งขันรายการนี้ และเชื่อมั่นว่าบรรดานักกอล์ฟที่เข้าร่วมแข่งขันในรายการนี้จะก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ในอนาคต และเราหวังใช้ความสำเร็จตรงนี้ต่อยอดเพื่อนำไปสู่การพัฒนากีฬากอล์ฟให้เติบโตมากขึ้น ซึ่งนี่นับเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นเส้นทางที่นำไปสู่การพัฒนาที่ดี”
สำหรับการแข่งขัน เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ ครั้งที่ 13 มีนักกอล์ฟชั้นนำ 120 คนจาก 39 สหพันธ์กอล์ฟทั่วทั้งภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก ร่วมแข่งขันที่สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 27-30 ตุลาคม 2565 โดยแชมป์ของรายการนี้ จะได้รับเชิญเข้าร่วมแข่งขันในระดับเมเจอร์ รายการ เดอะ มาสเตอร์ส 2023 และ ดิ โอเพน ครั้งที่ 151 ขณะที่รองแชมป์จะได้สิทธิ์ลงเล่นรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย เพื่อลุ้นสิทธิ์ลงแข่งขันรายการ ดิ โอเพ่น ต่อไป
ส่วนการแข่งขันครั้งต่อไปในปี 2023 จะมีขึ้น ณ สนามรอยัล เมลเบิร์น กอล์ฟ คลับ ที่กรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 26-29 ตุลาคม
ติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวของการแข่งขันกอล์ฟรายการ เอเชีย–แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ ได้ทางเว็บไซต์ www.aacgolf.com
Photo : Boyนาคราช