‘รมว.ธรรมนัส’ หนุน อ.ต.ก. จัดงาน “สินค้าเกษตรคุณภาพ ลดค่าครองชีพ”สร้างรายได้เกษตรกร เผยจากนี้เป็นมิติใหม่ กระทรวงเกษตรฯ จะเป็นธงนำบูรณาการรัฐ เอกชน เปิดเจรจาขายผลิตผลเกษตรคุณภาพดีส่งคู่ค้าต่างประเทศ เพื่อตอบโจทย์ให้พี่น้องเกษตรกรมากที่สุด
วันที่ 5 ต.ค. 2566 ที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา อตก.ครบรอบ 49 ปี ประจำปี 2566 พร้อมด้วย นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เข้าร่วม
โดยในช่วงเช้า ร.อ.ธรรมนัส ได้นำคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ทำพิธีไหว้ศาลตา – ยาย , ศาลพระภูมิและพิธีสักการะท้าวมหาพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่ตลาด อ.ต.ก.มาอย่างยาวนาน รวมถึงยังได้ปลูกต้นรวงผึ้ง พรรณไม้มงคลประจำพระองค์รัชกาลที่ 10 เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล ก่อนจะเป็นประธานเปิดกิจกรรม “สินค้าเกษตรคุณภาพ ลดค่าครองชีพ” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 ต.ค. 2566 ณ ตลาด อ.ต.ก.อย่างเป็นทางการ
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีที่ได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญ สำหรับพี่น้องเกษตรกร และเป็นความหวังในการกระจายสินค้าภาคการเกษตรทุกประเภท รวมถึงวันนี้ยังเป็นวันสำคัญนอกจากจะเป็นวันสถาปนาครบปีที่ 49 ของการก่อตั้งตลาด อ.ต.ก.แล้วยังเป็นวันเปิดงาน “สินค้าเกษตรคุณภาพ ลดค่าครองชีพ” ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 – 7 ต.ค. 2566 ซึ่งต้องขอแสดงความยินดีกับพี่น้องที่ทำงานอยู่ในตลาด อ.ต.ก.ทุกท่าน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การบริหารงานของ อ.ต.ก. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สำคัญ เป็นเสมือนกระทรวงพาณิชย์เล็กๆ ที่จะสามารถกระจายสินค้าภาคการเกษตรของพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศไทยไปสู่ผู้บริโภค ในช่วงเวลาที่ผ่านมา นโยบายสำคัญที่ตนเคยมอบไว้ให้กับผู้อำนวยการตลาด อ.ต.ก. ไม่ต่อเนื่อง ขาดหายไป 2 ปี ดังนั้น ปีนี้จึงถือเป็นปีที่เป็นมิติใหม่ของ อ.ต.ก. นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตนได้มีการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียถึงการกระจายสินค้าภาคการเกษตร ไปสู่ผู้บริโภค ดังนั้นจึงได้มอบนโยบายให้กับปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหาเงื่อนไขหามาตรการและข้อกฎหมายในการจัดตั้งบริษัทร่วมค้าของ อ.ต.กเพื่อกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคที่เป็นเพื่อนบ้าน
โดยในเร็ววันนี้ จะเห็นว่า อ.ต.ก.จะกลับมาเป็นความหวังอันสำคัญของพี่น้องเกษตรกรอีกครั้งหนึ่งในช่วงเวลาที่ตนกำกับดูแล โดยในก่อนหน้านี้มีภาคเอกชนได้เข้ามาหาหรือกับผู้บริหารในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการขับเคลื่อนนโยบายกระจายสินค้า ดังนั้นในอนาคตการใช้คำว่า “เกษตรผลิต พาณิชย์จำหน่าย” ก็จะหมดไป จากนี้ไป เราจะผลิตเองและจะจำหน่ายเอง เพื่อตอบโจทย์ให้กับพี่น้องเกษตรกรมากที่สุด
ดังนั้น ณ เวลานี้ประเทศจีนต้องการสินค้าภาคการเกษตรอย่างมหาศาล ซึ่งตนได้มีโอกาสเจรจากับทูตจีนและผู้บริหารมณฑลของรัฐต่างๆของประเทศจีนในการกระจายสินค้าภาคการเกษตร นอกจากนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้ฝากความหวังไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในปีงบประมาณ 2567 คือพี่น้องเกษตรกรต้องมีรายได้ ในระยะเวลา 4 ปีต้องสูงขึ้นเป็น 3 เท่าของปัจจุบัน อ.ต.ก.จึงถือว่าเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ดังนั้นต่อจากนี้ อ.ต.ก.จะต้องทำงานอย่างบูรณาการ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยผลักดันการบริหารให้มีคุณภาพต่อไป
นอกจากนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพิ่มเติม การมอบนโยบายให้ อ.ต.ก.ว่า ตอนนี้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ทูตเกษตรเป็นหลักในการเจรจาระบายสินค้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทูตเกษตรมีอยู่หลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีพลเมืองอยู่มาก คือ ประเทศจีน ซึ่ง ณ เวลานี้การเจรจาได้จบลงไปแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือเตรียมตัวในการสร้างบริษัทลูก โดยมอบหมายให้กับรองปลัดฯ เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ หลังจากนั้นจะมีการเซ็น MOU ร่วมกัน ซึ่งจะเป็นการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนโดยรัฐวิสาหกิจ อ.ต.ก.ร่วมกับบริษัทลูกของ อ.ต.ก. เป็นการลงทุนโดยจะไม่ใช้งบประมาณของหลวงเลย ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรจากแหล่งผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง นอกจากนี้ ยังสามารถระบายสินค้าภาคการเกษตรไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องพัฒนาคุณภาพของสินค้าให้มีคุณภาพด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ
