“ปลัด พม.” ระดม “นักสังคมสงเคราะห์” ประกบ ครอบครัว “เหยื่อ” พลุระเบิดสุพรรณ เข้ม “ช่วง 7 วันอันตราย” เร่ง “เยียวยาจิตใจ-เปิดแผนช่วยเหลือระยะยาว”
วันที่ 19 ม.ค. 2567 เวลา 08.00 น. ที่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า เมื่อค่ำวันที่ 18 ม.ค. 2567 เวลา 20.30 น. ตนพร้อมผู้บริหารกระทรวง พม. และทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์พลุระเบิด ที่วัดโรงช้าง ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งตนรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับทุกครอบครัวที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนี้ หลังจากเสร็จพิธี สวดพระอภิธรรมได้เข้าไปพูดคุยและให้กำลังกับญาติผู้เสียชีวิต ยืนยัน พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากทีม พม.หนึ่งเดียว
“เหตุการณ์ความสูญเสียครั้งนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กำชับให้จัดตั้งศูนย์วอร์รูม (War Room) ของกระทรวง พม. ขึ้นมา เพื่อเร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทุกคน ซึ่งเราจะทำในเรื่องเร่งด่วน คือ การเยียวยาทางด้านจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือญาติ โดยเฉพาะใน 7 วันอันตรายนี้ เราจะให้นักสังคมสงเคราะห์ เข้าไปประกบทุกครอบครัวของผู้เสียชีวิต และทำการประเมินข้อมูลของครอบครัวทั้งหมด ว่าพบกลุ่มเปราะบางที่เป็นเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ เพื่อเข้าไปพูดคุยให้กำลังใจ และประเมินทางด้านจิตใจ แต่บางเรื่องที่เป็นเชิงลึกจะต้องทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จะต้องมีจิตแพทย์เข้ามา ซึ่งกระทรวง พม. ได้ระดมใช้นักสังคมสงเคราะห์จากจังหวัดใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็น ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง นครปฐม พระนครศรีอยุธยา และกาญจนบุรี เป็นต้น จัดเป็นทีมๆ ละ 3 – 4 คน ต่อ 1 ครอบครัว เข้าไปประกบและทำงานร่วมกันแล้วดึงข้อมูล ประเมินทั้งหมด จึงติดตามเป็นรายบุคคล ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกัน เราต้องตามไปประเมินทางด้านจิตใจด้วย” นายอนุกูล กล่าวว่า
“ส่วนเรื่องเร่งด่วนต่อไป คือ ด้านความเป็นอยู่ เป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้าในเรื่องของเงินสงเคราะห์ประเภทต่างๆ และเราจะเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องอาชีพ สุขภาพ รวมทั้งหนี้นอกระบบ โดยจะต้องเข้าไปประเมินเพื่อจะได้ทราบข้อมูลในสิ่งที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบต้องการให้ช่วยเหลือ ซึ่งมีนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปประเมินเชิงลึกแล้ว เพื่อที่จะให้ได้รับการคลี่คลาย และปรับตัวกับการมีชีวิตอยู่ต่อไปได้” นายอนุกูล กล่าวว่า
“สำหรับการช่วยเหลือในระยะยาว กระทรวง พม. จะเข้าไปดูเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เช่น ต้องปรับปรุงสภาพแวดล้อม สภาพบ้านให้เหมาะสมปลอดภัยกับการอยู่อาศัย ทั้งผู้สูงอายุและคนพิการ อีกทั้งจะมีการพัฒนาทักษะอาชีพ สนับสนุนเงินทุนประกอบอาชีพ และในระยะยาวจะมีเงินครอบครัวอุปถัมภ์เข้าไปช่วยรายเดือน บางรายต้องเข้าไปช่วยเหลือด้านการฝึกทักษะอาชีพต่างๆ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องการทำงาน จะต้องแนะนำอาชีพที่ไม่มีความเสี่ยง
พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือในด้านอื่นๆ รวมถึงการเยียวยาชุมชน ด้วยการบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นายอนุกูล กล่าวว่าทิ้งท้าย