นายสอน พรคำแก้ว เกษตรกรต้นแบบผู้มีความรู้ด้านการปลูกพืชผสมผสาน และพืชสมุนไพร ในตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ปราชญ์ชาวบ้าน“
นายสอน พรคำแก้ว อายุ 70 ปีได้รับเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 จำนวน 2 แปลง เนื้อที่18 ไร่ 1 งาน 57 ตารางวา และแปลงเนื้อที่ 15 ไร่ 0 งาน 44 ตารางวา ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดปราจีนบุรี ได้เข้ามาให้ความรู้ ในการใช้ พื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินทั้ง 2 แปลงนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างรายได้ในอาชีพเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน ด้วยการเข้ามาอบรมใน “โครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่องในเขตปฏิรูปที่ดิน” และได้จัดตั้งที่ดินทั้ง 2 แปลงนี้เป็นศูนย์เครือข่ายศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก. เครือข่าย) ในเขตปฏิรูปที่ดินที่มีความโดดเด่นเรื่องเกษตรผสมผสานและการปลูกพืชสมุนไพร
ด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญด้านพืชสมุนไพรและเกษตรอินทรีย์ ทำให้ในปี 2562 นายสอน พรคำแก้ว ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลวังท่าช้าง ซึ่งมีสมาชิกทั้งสิ้น 37 ราย โดยมีนายสุนทร ทองคำ เป็นประธานกลุ่มฯ และในปัจจุบัน ได้จัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เกษตรอินทรีย์ตำบลวังท่าช้าง โดยจัดตั้งเป็นวิสาหกิจฯ แปลงใหญ่ มีพื้นที่ในการผลิตพืชผักผลไม้และสมุนไพร 303 ไร่ โดยมีที่ดินในเขตปฏิรูปของนายสอน พรคำแก้ว อยู่ในนั้นด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ตำบลวังท่าช้าง จะเน้นการปลูกพืชสมุนไพรเป็นหลัก ประกอบด้วย ฟ้าทะลายโจร เพชรสังฆาตมาระขี้นก กระเจี๊ยบ เป็นต้น และได้ทำ MOU กับมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสในการสร้างรายได้ให้เกษตรกรรายย่อย โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจรที่สามารถสร้างรายได้ให้มากถึง 7 ตันต่อปี
นอกจากนี้ นายสอน พรคำแก้ว ในนามของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ตำบลวังท่าช้าง ยังได้มีโอกาสไปศึกษาดูงาน ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เรื่องการถ่ายทอดความรู้การเพิ่มประสิทธิภาพและการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร และด้วยความรู้ความสามารถของนายสอน พรคำแก้ว ทางกลุ่มยุทธศาสตร์และการปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก. ปราจีนบุรี จึงได้ดำเนินการส่งหนังสือประชาสัมพันธ์การรับสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นอาสาสมัครปฏิรูปที่ดิน (อสปก.) ดีเด่นของจังหวัดปราจีนบุรี