“สมาคมอุตฯ ปูนซีเมนต์ไทย” ประกาศความสำเร็จจัดประชุม “GCCA 2024” จับมือ “ภาครัฐ-อุตฯซีเมนต์ทั่วโลก” ดึงกรีนฟันด์ต่างประเทศ พิชิตเป้าหมาย Net Zero Future
วันที่ 4 มิถุนายน 2567 เวลา 13.00 น. ณห้องบอลรูม โรงแรมแชงกี-ลา กรุงเทพฯ สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตปูนซีเมนต์และคอนกรีตโลก (GCCA) ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ไทยครั้งแรกในประเทศไทย “GCCA CEO Gathering and Leader Conference 2024” โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในการเปิดงาน ซึ่งมี CEO และผู้นำกว่า 200 รายจากผู้ผลิตปูนซีเมนต์และคอนกรีตชั้นนำจากทั่วทุกภูมิภาคทั่วโลกเข้าร่วมการประชุม
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การประชุม GCCA ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 6 เป็นการรวมตัวของอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีตที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย 80% ของผู้ผลิตอยู่ในกลุ่มนี้ ซึ่งการดำเนินการมีทั้งเรื่องการพัฒนากลุ่มของซีเมนต์และคอนกรีต และเรื่องสำคัญคือความยั่งยืน เพราะอุตสาหกรรมคอนกรีตและซีเมนต์เป็นอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยคาร์บอนมากเป็นอันดับ 2 ของอุตสาหกรรมทั้งหมด เพราะฉะนั้น ในอนาคตจะต้องมีการพยายามลดการสร้างมลภาวะโลกร้อนให้ได้มากที่สุด
“ซึ่งวันนี้ มีบริษัททั้งหมดมาร่วมประชุมหาแนวทางในการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ นโยบายใหม่ๆ ในการลดการสร้างคาร์บอน ทั้งการใช้วัตถุดิบ กระบวนการผลิต การนำของที่ไม่ได้ใช้ เช่น ขยะต่างๆ มาเป็นวัตถุดิบ และเชื้อเพลิง เพื่อให้อุตสาหกรรมปูนและซีเมนต์ดึงคาร์บอนออก โดยทั้งหมดต้องมีการพัฒนาตลอดเวลา ดังนั้น ในการประชุมครั้งนี้ จึงเป็นอีกก้าวหนึ่งที่กลุ่มอุตสาหกรรมซีเมนต์โลกเข้ามาดำเนินการ นอกจากนี้ ยังมีโครงการใหม่ๆ ที่เป็นโครงการความร่วมมือ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลแคนาดาผ่านมายัง องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) ให้ประเทศไทยและเซาท์อีสเอเชีย มูลค่า 8 ล้านเหรียญแคนาดา หรือราว 212 ล้านบาท โดยให้ประเทศไทยเป็นต้นแบบ เนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการพัฒนา เช่น สระบุรี sandbox ซึ่งเป็นต้นแบบที่ดีของการลดการสร้างคาร์บอนเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมในการทำอุตสาหกรรมซีเมนต์” นายณัฐพล กล่าว
ด้าน ดร.ชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) กล่าวว่า ความสำเร็จจากการจัดประชุม GCCA 2024 ภายใต้แนวคิดหลัก ‘Cement Industry Progress – What’s next for our collective action and future’ ในครั้งนี้ TCMA ผสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศ ในระดับภูมิภาค และระดับโลก นอกจากนี้ ยังแสดงถึงความมุ่งมั่น และความร่วมมือจากหน่วยงานชั้นนำต่างๆ ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนรัฐบาลประเทศแคนาดา ผู้แทนองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) ประธานและคณะผู้บริหารระดับสูงของ GCCA สมาชิกและพันธมิตรของ GCCA และสมาชิกของสมาคมอุตสาหกรรม-ปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ที่มาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อกำหนดแนวทางการผลักดันให้อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และคอนกรีตของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกดำเนินการลดการปล่อยคาร์บอน และลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นทั่วโลก
“สำหรับกรีนฟันด์ที่เข้ามาสู่ประเทศไทยถึงภาคอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรก และเป็นก้าวสำคัญ รวมทั้งเป็นการย้ำจุดยืนและศักยภาพของ TCMA และสมาชิกซึ่งเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของไทยทุกราย ที่พร้อมประสานการดำเนินงานกับทุกภาคส่วน รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรระหว่างประเทศของ UNIDO เพื่อเดินหน้าสู่ Net Zero ตามเป้าหมาย Thailand 2050 Net Zero Cement and Concrete Roadmap ครอบคลุมทั้งการเสริมสร้างขีดความสามารถในการดำเนินงาน การจัดทำโครงการนำร่อง การปรับใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำในอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีต รวมถึงการเสริมสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นต้น” ดร.ชนะ กล่าว
ขณะที่ นายโธมัส กิลโย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Global Cement and Concrete Association (GCCA) กล่าวว่า จากผลงานที่ยอดเยี่ยมของ TCMA ที่จัดทำโรดแมปอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ของไทยเป็นประเทศแรกของโลก โดยกำหนดเป้าหมายมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ปี 2050 (Thailand 2050 Net Zero Cement and Concrete Roadmap) ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง GCCA Net Zero จากนั้น นำมาขับเคลื่อนจนเกิดความก้าวหน้า ด้วยการทำงานร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และสามารถเห็นถึงความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
“แม้อุตสาหกรรมของปูนซีเมนต์และคอนกรีตจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ยังมีความท้าทายต่อการบรรลุเป้าหมาย Net Zero รวมถึงนโยบายของภาครัฐและการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง GCCA ขอบคุณการสนับสนุนจากประเทศต่างๆ ผ่านองค์การระหว่างประเทศ เช่น UNIDO ความร่วมมือและการทำงานร่วมกันเท่านั้น ที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมาย Net Zero ร่วมกันได้” นายโธมัส กล่าว