“สส.ภาคภูมิ“วอน ภาครัฐ ผ่อนคลายมาตรการข้ามแดน เอื้อโครงการคอนแทรคฟาร์มมิ่งให้เกษตรกร พร้อมขอให้เปิดนำเข้าโค หวังสร้างความหลากหลายการค้าเนื้อโคในประเทศ
นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.จังหวัดตาก พรรคกล้าธรรม กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชผลการเกษตร โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก ของอำเภออุ้มผาง พบพระ แม่สอด แม่ระมาด ท่าสองยาง มีเกษตรกรจำนวนหนึ่งที่เข้าไปปลูกพืชผลทางการเกษตรที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แล้วตอนนี้ถึงฤดูการเก็บเกี่ยวในโครงการคอนแทรคฟาร์มมิ่ง (contract farming)จึงต้องมีการขนพืชผลการเกษตรข้ามมาขายในฝั่งไทย แต่ตามระเบียบกฎหมายต้องมีการผ่อนผัน ตนจึงอยากจะขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบผ่อนผันโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นจะเสียหายมากกว่านี้
นายภาคภูมิ กล่าวต่อว่า ส่วนการเก็บเกี่ยวผลผลิตของฝั่งไทย โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรคนไทยจำเป็นจะต้องใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านแบบ ไปเช้า-เย็นกลับ
ซึ่งที่ผ่านมา จังหวัดตาก ต้องมีการผ่อนผันอะลุ่มอล่วยในการวางมาตรการที่เข้มงวด ในการนำแรงงานเหล่านี้เข้ามา ตนก็อยากจะให้ทางฝ่ายปกครองของจังหวัดรีบดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็ว ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหาย แล้วก็ไม่เป็นผลดีกับพี่น้องเกษตรกร
นายภาคภูมิ ยังกล่าวถึง การนำเข้าโค มีชีวิต จากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ตอนนี้ยังสั่งห้ามอยู่ และที่สำคัญมีการลักลอบเป็นจำนวนมากทุกวัน ตนมั่นใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเข้มงวดในการจะกวดขัน แต่ตนอยากฝากให้กรมปศุสัตว์ รีบพิจารณาเปิดการนำเข้าวัวโดยเร็ว อย่าไปกังวลว่าจะมีผลกระทบเกิดขึ้น เพราะตนคิดว่า การนำเข้าโคมีชีวิต ส่วนใหญ่จะนำเข้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย ประเทศเวียดนาม ประเทศลาว และจีน
“ผมมองว่า การนำเข้าโคมีชีวิตจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการสร้างความหลากหลายในการค้าให้กับเนื้อโคในประเทศ และอาจจะมีผลทำให้ราคาโคในประเทศสูงขึ้น และทำให้เศรษฐกิจของชายแดน มีชีวิต มีชีวิตชีวา ขึ้นอีกครั้ง“ นายภาคภูมิ กล่าว