เช้าวันที่ 8 กรกฎาคม 64 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า กล่าวว่า จากกรณีที่ได้มีการเผยแพร่ Fake news ซึ่งสร้างความไม่สบายใจแกตนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเพจต้นเรื่องจงใจที่จะบิดเบือนความคิดเห็นของตนจากความเป็นจริง
โดยตนกล่าวว่า ในวันนั้นตนต้องการที่จะสื่อว่า ณ เวลานั้น ได้ควบคุมการลุกไหม้ของไฟได้แล้ว แต่ยังคงมีอุณภูมิโดยรอบที่สูง และมีควันปกคลุมบางๆ ซึ่งตนคาดการณ์ว่าจะเป็นการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดคาร์บอนมอนอกไซด์ และเมื่อมีฝนตก ทำให้คาร์บอนมอนอกไซด์ทำปฏิกิริยากับน้ำ จะได้เป็นคาร์บอนไดออกไซด์กับไฮโดรเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ทำปฏิกิริยาต่อกับน้ำได้เป็นกรดคาร์บอนิก ซึ่งไม่เสถียรแตกตัวต่อได้โปรตอนและไบคาร์บอเนต ซึ่งไบคาร์บอเนตสามารถทำหน้าที่เป็น Buffer เพื่อรักษาความเป็นกรดเป็นด่างของปฏิกิริยาเคมีได้ และตนยังคิดต่ออีกว่าฝนที่ตกลงมาจะไปซะล้างตัวสไตรีนโมโนเมอร์ที่รั่วไหลและเผาไหม้ไม่หมดหรือไม่ ซึ่งตนก็ได้รีบทำการรศึกษาข้อมูล พบว่า สารสไตรีนโมโนเมอร์เป็นสารที่ไม่ตกค้างในน้ำ และเมื่อเกิดการปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำ จะเกิดปฏิกิริยาโพลีเมอร์ไรเซชันกลายเป็นเมตาสไตรีน ซึ่งสามารถถูกย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ที่ตนต้องการสื่อเพราะเห็นใจผู้ปฏิบัติงานที่ทำงานอย่างหนักมาตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจเป็นการแบ่งเบาภาระแก่ผู้ปฏิบัติงานได้บ้าง
Cr. Page Facebook ธรรมนัส พรหมเผ่า