วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ เลขาธิการพรรค และผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 พรรคพลังประชารัฐ (ศปฉ.พปชร.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. เขต 30 ในฐานะหัวหน้าภาค กทม. เป็นตัวแทน ศปฉ.พปชร. มอบถุงยังชีพเพิ่มเติม จำนวน 900 ชุด แบ่งเป็น น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. เขต 6 และ น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส. สมุทรสาคร เขต 3 เพื่อเป็นตัวแทนส่งมอบให้กับประชาชนในพื้นที่ของตนเอง ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนและเป็นช่องทางที่จะให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเชิงรุกทุกพื้นที่ ที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะพื้นที่ ที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ในวงกว้าง ที่เป็นพื้นที่สีแดงเข้มและสีแดง จำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในกรณีที่ประชาชนไม่สามารถออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
นายจักรพันธ์ กล่าวว่า การระบาดในพื้นที่เขต กรุงเทพมหานคร และ จ.สมุทรสาคร ยังพบจำนวนผู้ติดเชื้อ แพร่ระบาดที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นการกระจายแบบคลัสเตอร์ ทำให้ประชาชนกักตัว เพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อ และการแพร่กระจายการติดเชื้อ ดังนั้น การดำเนินการของศูนย์ ศปฉ.พปชร. มีเป้าหมายที่จะให้บริการประชาชนที่ได้รับผลประทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในด้านการลดค่าครองชีพโดยการจัดถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายให้ครอบคลุมในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และการประสานงานหน่วยงานสาธารณสุข เพื่อการส่งต่อผู้ป่วย เข้ารับการรักษาโดยเร็ว ตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีความห่วงใยจากความเดือดร้อนของประชาชน แม้ว่าสถานการณ์ขณะนี้ จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้น จนทำให้ขีดความสามารถการเข้ารับการรักษาไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทาง ศูนย์ ศปฉ.พปชร. ยังติดตามให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงระบบการรักษาทางสาธารณสุขโดยเร็วที่สุด
โดยพรรคพลังประชารัฐ ขอส่งกำลังใจให้ทุกภาคส่วน ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ภาคเอกชน ประชาชน และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ โดยประชาชนสามารถแจ้งความประสงค์มาที่ ศปฉ.พปชร. ผ่านสายด่วน Call Center 02-939-1111 จำนวน 30 คู่สาย หรือ Inbox มาในเพจ Facebook ของพรรคได้ที่https://www.facebook.com/PPRPThailand/
พร้อมแจ้งรายละเอียด จะมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และเร่งนำข้อมูลส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ
