“ตรีนุช” เสนอ สภาพัฒน์ทบทวนเงินช่วยเหลือ น.ศ ปริญญาตรี 23 แห่งได้รับสิทธิ์ เดินหน้าจ่ายเงินเยียวยา นร.-นศ. ขั้นพื้นฐานทั้งสายสามัญ-อาชีพ คนละ 2,000 บาท
วันที่ 2 กันยายน 2564 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่าตามที่กระทรวงได้ดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งมีกรณีที่ผู้ปกครองและนักศึกษา ระดับปริญญาตรี ที่ศึกษาอยู่ในสถาบันการอาชีวศึกษา สังกัดสอศ. จำนวน 23 แห่ง ร้องเรียนว่าไม่ได้รับการพิจารณาให้ได้รับเงินเยียวยา คนละ 2,000 บาท นั้น ที่ผ่านมา สอศ.ได้จัดทำตัวเลขข้อมูลนักศึกษา ในสังกัด สอศ.ที่จะได้รับการเยียวยาครอบคลุมทุกระดับ และเสนอไปยังสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณา แต่เมื่อสภาพัฒน์ฯ พิจารณาและส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) กลับตัดกลุ่มนักศึกษาระดับปริญญาตรีของ สอศ.ออกไป เมื่อตนทราบเรื่องจึงได้หารือกับ ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และ ได้มอบหมายให้ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ.ประสานไปยังสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อพิจารณาทบทวนและขยายเพดานการเยียวยาเงินคนละ 2,000 บาท ให้ถึงกลุ่มนักศึกษาปริญญาตรีแล้ว และเมื่อผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนของสภาพัฒน์ฯ ก็ต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป หากผ่านมติ ครม.แล้ว สอศ.จะเร่งดำเนินการโอนงบประมาณให้แก่สถาบันการอาชีวศึกษาทันที ทั้งนี้ สอศ.ได้จัดทำตัวเลขข้อมูลนักศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 10,538 คน ที่จะได้รับการเยียวยาเงินคนละ 2,000 บาท เพื่อเสนอให้สภาพัฒน์ฯ พิจารณาแล้ว
ในส่วนของการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งสายสามัญศึกษาและสายอาชีพ ในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน ประมาณ 10.8 ล้านคน ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน รวมเป็นเงินประมาณ 21,600 ล้านบาท ไปยังหน่วยงานในสังกัดและนอกสังกัด ศธ.เป็นที่เรียบร้อยแล้วแบ่งเป็น สพฐ. รับเงินเยียวยา ทั้งการรับเงินโอนเข้าบัญชี หรือรับเงินสดที่โรงเรียน ตั้งแต่วันที่ 1-7 กันยายน 2564 สอศ. รับเงินเยียวยา ทั้งการรับเงินโอนเข้าบัญชี หรือรับเงินสดที่สถานศึกษา ตั้งแต่วันที่ 1-7 กันยายน 2564 กศน. รับเงินเยียวยา โดยรับเงินสดที่สถานศึกษา ตั้งแต่วันที่ 1-7 กันยายน 2564 สช. รับเงินเยียวยา ทั้งการรับเงินโอนเข้าบัญชี หรือรับเงินสดที่โรงเรียน ตั้งแต่วันที่ 6-10 กันยายน 2564
“สถานศึกษาทุกแห่ง เมื่อได้รับการจัดสรรเงินตามมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาไปแล้วขอให้เร่งดำเนินการโอนเงินหรือจ่ายเงินสดให้ถึงมือผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษา เต็มจำนวนโดยเร็ว ห้ามสถานศึกษาหักเงินนี้ เพราะรัฐบาล ต้องการให้เงินนี้เป็นการชดเชยค่าใช้จ่ายในการเรียนที่เพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19 ที่ผู้ปกครองสามารถนำไปใช้ตามความจำเป็น เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าไฟฟ้า และอื่นๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ นักเรียน สังกัด สพฐ.สามารถตรวจสอบสิทธิ์ ได้ที่เว็บไซต์ https://student.edudev.in.th นักเรียน สังกัด สช.ตรวจสอบสิทธิ์ ได้ที่ https://opec.go.th และ นักศึกษา สังกัด สอศ. ตรวจสอบสิทธิ์ ได้ที่ https://www.vec.go.th สำหรับ นักศึกษา กศน.ตรวจสอบสิทธิ์ที่สำนักงาน กศน.จังหวัด/อำเภอ และศูนย์การเรียนรู้ชุมชน” น.ส.ตรีนุชกล่าว
น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า สำหรับกรณีไม่ได้รับเงินในช่วงเวลาที่กำหนด สามารถติดตามสอบถามได้ที่ สถานศึกษาต้นสังกัด หรือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือ ส่วนราชการต้นสังกัด หรือโทร. 1579 , 1693 ซึ่งอาจจะมีนักเรียนบางคนได้รับเงินล่าช้า เพราะมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ นักเรียนย้ายโรงเรียนหลังวันที่ 25 มิถุนายน 2564 โรงเรียนตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร และสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามยืนยันว่านักเรียน นักศึกษา ทุกคนที่มีสิทธิ์ต้องได้รับเงินเยียวยาเต็มจำนวน