กมธ.พลังงาน ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นกลุ่มประมงพาณิชย์ จ.สมุทรสาคร สะท้อนปัญหาน้ำมันแพง ส่งผลกระทบซ้ำเติมความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด และระเบียบข้อกฎหมาย IUU ที่เคยเสนอรัฐบาลแก้ไขแต่ยังไร้ความคืบหน้า
เมื่อวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม 2565 นางสาว จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส. เขต 3 จังหวัดสมุทรสาคร พรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมด้วย ส.ส.กิตติกร โล่ห์สุนทร ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร, นายอำนาจ หนูทอง ประมงจังหวัดสมุทรสาคร, นายพรเทพ ทองดี ผอ.ส่วนส่งเสริมการมีส่วนร่วม
สนง.ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 และทีมข่าวสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา TPTV รายการมองรัฐสภา ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และแนวทางการแก้ไขปัญหา ณ.สะพานปลา ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร
โดยช่วงหนึ่ง ส.ส.จอมขวัญ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงว่า ตั้งแต่สถานการณ์โควิดระบาดในช่วงแรกที่ตลาดกุ้งมหาชัย ส่งผลกระทบต่ออาชีพชาวประมงโดยตรง เช่น การเดินทางขนส่งที่มีมาตรการในการเดินทางข้ามจังหวัด ผู้บริโภคเกิดความไม่มั่นใจในสินค้าประมงของจังหวัดสมุทรสาคร เกรงว่าจะมีเชื้อโควิดติดมา ทำให้สินค้า/อาหารทะเลราคาตกต่ำ ยอดขายลดลง อีกทั้งมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโควิด ทำให้เรือประมงไม่สามารถออกทำการประมงได้ ทำให้ชาวประมงขาดรายได้ เมื่อเกิดภาวะวิกฤติเศรษฐกิจปัญหาน้ำมันแพง ทำให้ชาวประมงได้รับผลกระทบโดยตรง ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงเพิ่มมากขึ้น บางวันออกเรือไปแต่ไม่ได้อะไรกลับมาแล้วยังต้องขาดทุนกับค่าน้ำมัน
ในระยะสั้น รัฐบาลควรแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงอย่างเร่งด่วน ขยายโครงการช่วยเหลือลดราคาน้ำมันให้ชาวประมงจนกว่าสถานการณ์ปัญหาราคาน้ำมันแพงจะคลี่คลายหรืออยู่ในภาวะปกติ ส่วนในระยะยาว รัฐบาลควรจัดตั้งกองทุนชดเชยราคาน้ำมันสำหรับเรือประมงขนาดเล็ก โดยการจัดสรรรายได้บางส่วนจากโครงการจำหน่ายน้ำมันดีเซลสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร สนับสนุนจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือชาวประมงอย่างเป็นรูปธรรม การแก้กฎหมายประมงตามที้ได้ยื่นข้อเรียกร้องไปแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า กรณีขนาดตาอวนรุนเคย 2×4 ม.ม. ลดข้อจำกัดในการทำประมงให้สามารถทำรายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องพอดูแลครอบครัวได้ รวมทั้งการหาอาชีพเสริมให้กับชาวประมง
ด้านตัวแทนผู้ประกอบการประมงพาณิชย์ใน จ.สมุทรสาคร ได้สะท้อนปัญหาว่า ปัญหาราคาน้ำมันแพงทำให้ธุรกิจประมงพาณิชย์ได้รับผลกระทบหมดต้นทุนสูงขึ้นทั้ง 22 จังหวัดทั่วประเทศ จากเดิมที่มีปัญหาเรื่องระเบียบข้อกฎหมาย IUU อยู่แล้ว ซึ่งก็ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขมาตลอดซึ่งยังไม่มีความคืบหน้า ทำให้ธุรกิจภาคประมงไปต่อลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดสมุทรสาครจะเห็นภาพชัดเป็นเมืองประมง ดงโรงงาน เพราะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารทะเล ถ้าเรือประมงไปต่อไม่ได้ โรงงานอุตสาหกรรมอาหารทะเลก็จะได้รับผลกระทบต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ สมุทรสาครมีเรืออยู่ประมาณ 400 ลำ ปัจจุบันหยุดไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง
ดังนั้น จึงตัองการให้รัฐบาลช่วยอุดหนุนราคาน้ำมัน แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เร่งแก้ไขกฎระเบียบข้อกฎหมาย IUU ให้สอดคล้องกับการปฏิบัติ แยกประเด็นความผิดทางธุรการและความผิดทางทรัพยากร รวมทั้งขอให้ช่วยเร่งรัดโครงการรับซื้อเรือคืน เป็นต้น
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ทางด้านส.ส.จอมขวัญ ยังได้นำข้าวหอมมะลิ จำนวนหนึ่ง มอบให้ตัวแทนกลุ่มประมงพื้นบ้านที่มาร่วมบอกเล่าและแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นด้วย