ส.อ.ท. รับ สินค้าราคาถูกจาก “จีน” ทะลักเข้า “ไทย” กระทบภาคการผลิตและSME วอน “ภาครัฐ” ดูแล-ปราบปรามเข้มงวด จริงจัง!
วันที่ 5 ก.พ. 2567 ณ ห้อง Passion (802) ชั้น 8 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงสถานการณ์ภาคการผลิตของอุตสาหกรรมไทย หลังจากที่สินค้าราคาถูกจากประเทศจีน ทะลักเข้าสู่ประเทศไทย ว่า ส.อ.ท. ได้รับการรายงานเรื่องของปัญหาสินค้าราคาถูกทะลักเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงมีสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีความปลอดภัย และไม่มีตรารับรองเข้ามาสู่ตลาดล่างจำนวนมาก ทำให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยได้รับผลกระทบถึง 22 อุตสาหกรรม จาก 46 อุตสาหกรรม โดยเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีเพียง 10 อุตสาหกรรมเท่านั้น
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า สินค้าเหล่านี้ได้มีการนำเข้าจำนวนมากอย่างถูกกฏหมาย ที่สำคัญเป็นสินค้าราคาถูกจำนวนมาก ซึ่งสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การสำแดงสินค้านำเข้าเท็จที่ไม่ตรงตามใบนำเข้า ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกรณีหมูเถื่อน รวมไปถึงสินค้าประเภทชิ้นส่วนไฟฟ้า อะไหล่อิเล็กทรอนิกส์ ด้วย
“โดยปัญหาที่ภาคการผลิตประสบอยู่ในขณะนี้ คือ กาาลักลอบการนำเข้าและสำเเดงเท็จ ทำให้สินค้าเหล่านี้กระจายเต็มในตลาดล่าง อย่างตลาดนัดตามต่างจังหวัด หรือ ชั้นใต้ดินของห้างที่มีการจำหน่ายสินค้าประเภทนี้ ส่งผลให้สินค้าและอุตสาหกรรมของไทยลดการผลิตและปิดกิจการลงกว่าครึ่งหนึ่ง และเปลี่ยนจากผู้ผลิตเป็นผู้นำเข้าแทน ส.อ.ท. จึงได้มีการหารือและปรึกษากับภาครัฐที่ดูแลเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน” นายเกรียงไกร กล่าว
นอกจากนี้ นายเกรียงไกร ได้ยกตัวอย่างถึงกรณี “กางเกงลายช้าง” ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ที่ พบว่าสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้านำเข้าเกือบทั้งหมดทำให้สินค้าท้องถิ่นที่ผลิตโดยคนไทยโดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งทอ ไม่ได้รับอานิสงส์จากกางเกงช้าง แต่ประเทศไทยกลับส่งเสริมการนำเข้าเพื่อมาตีราคาและตีตลาดของไทย ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล โดยสิ่งที่สภาอุตสาหกรรมมุ่งเน้น คือ เรื่อง “เมคอินไทยแลนด์” ที่จะเป็นมาตรการในการช่วยผู้ประกอบการ “เอสเอ็มอี” ให้มีแต้มต่อ โดยคาดหวังว่า ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการหารือเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามออกไป
“ขณะที่มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ประเมินได้จากจำนวนผู้ผลิตของไทยที่หายไป รวมถึง ยังส่งผลต่อศักยภาพอุตสาหกรรมไทย ที่เป็นพื้นฐานอุตสาหกรรมต้นน้ำที่ถูกทำลาย ทำให้ความเข้มแข็งภาคอุตสาหกรรมหายไปที่นับเป็นมูลค่าไม่ได้” นายเกรียงไกร กล่าว
สำหรับการแก้ปัญหาเบื้องต้น นายเกรียงไกร กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ ส.อ.ท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้เข้ามาตรวจจับสินค้าด้อยคุณภาพและสินค้าที่ไม่มีตรารับรอง หรือไม่มีความปลอดภัย ซึ่งทาง ส.อ.ท. มองว่ายังไม่เพียงพอ โดยหน่วยงานภาครัฐจะต้องเข็มงวด กวดขัน การนำเข้า-ส่งออกสินค้า ตามด่านต่างๆ เพื่อไม่ให้สินค้าเหล่านี้ทะลักเข้าไทยเช่นเดียวกับกรณี “หมูเถื่อน” รวมถึงการปรับมาตรการขายสินค้าออนไลน์ ที่เป็นสินค้าจากต่างประเทศหากไม่เกิน 1500 บาท จะไม่ต้องเสียภาษี จึงกลายเป็นแต้มต่อให้ผู้ประกอบการนำสินค้าเข้ามาขายในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ SME อย่างมาก ทั้งนี้ “ขอให้ภาครัฐได้เข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน”