นายกฯ ปาฐกถาในวัน ‘วันต่อต้านคอร์รัปชั่น 2566’ ประกาศ เดินหน้ารัฐบาลดิจิตัลต้านโกง โปร่งใส ไม่มีซื้อขายตำแหน่ง

นายกฯ ปาฐกถาในวันวันต่อต้านคอร์รัปชั่น 2566’ ประกาศ เดินหน้ารัฐบาลดิจิตัลต้านโกง โปร่งใส ไม่มีซื้อขายตำแหน่ง

วันที่ 6 .. 2566 ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่น 2566’ ที่จัดขึ้นโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) พร้อมขึ้นเวทีกล่าวปาฐกถา ช่วงหนึ่งว่าการปราบปรามการทุจริตและเรื่องความโปร่งใสของรัฐบาล เป็นหนึ่งในนโยบายที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งของรัฐบาล และเป็นหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐที่จะต้องสนับสนุนและปฏิบัติตาม อย่างไม่มีข้อยกเว้น

ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ(Transparency International) เป็นอันดับที่ 101 ของโลก ในด้านของดัชนีการรับรู้การทุจริต เป็นอันดับ 4 ของอาเซียน (ตามหลังสิงคโปร์ มาเลเซีย และ เวียดนาม) ซึ่งหมายความว่าเรามีสิ่งที่จะต้องพัฒนากันอีกมากนายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวต่ออีกว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันนั้น นอกจากที่จะทำให้เกิดความเสียหายโดยตรงต่อภาครัฐแล้ว ยังทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เศรษกิจไทยถดถอย และมีผลต่อเนื่องไปสู่ปัญหาการขับเคลื่อนGDP ของประเทศอีกด้วย

ทั้งนี้ เพื่อที่จะขจัดปัญหาทุจริตคอร์รัปชันให้หมดไป ทางรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย มีนโยบาย ทั้งด้านการใช้หลักนิติธรรม หรือ Rule of Law ที่เข้มแข็ง และนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในกระบวนการต่าง ของภาครัฐ ทำให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งจะช่วยพี่น้องประชาชนได้ทั้งความโปร่งใส และการให้บริการภาครัฐที่เร็วยิ่งขึ้น

หลักนิติธรรมที่มั่นคงแข็งแรงมาจากระบบการเขียนกฎหมาย และการออกกฎหมายที่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ และประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเพื่อช่วยกันกำหนดทิศทางและอนาคตของตัวเองและของประเทศนายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา ระบุว่า เรามีแผนที่จะปรับปรุงกฎหมายเพื่อลดกระบวนการและเงื่อนไขต่างๆ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เปลี่ยนรัฐอุปสรรคให้เป็นรัฐสนับสนุนและป้องกันการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินสินบนจากประชาชนนอกจากกฎหมายที่เข้มแข็งแล้ว รัฐบาลของเราจะให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายและการลงโทษที่เฉียบขาด และครอบคลุมเจ้าหน้าที่รัฐในหลาย ตำแหน่งจะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และในระดับสูงจะต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อแสดงความโปร่งใส และเปิดให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ

นายเศรษฐา ระบุอีกว่า การมีกฎหมายที่เข้มแข็ง เน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักและการบังคับใช้กฎหมายที่โปร่งใส ยุติธรรม มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้นี้ จะส่งเสริมความแข็งแกร่งและสร้างรากฐานของสังคมที่เคารพในกฎหมายร่วมกัน และขจัดการคอร์รัปชันให้หมดไปจากประเทศไทยเราจะนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อช่วยให้เราสามารถเกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้ ตัวอย่างนโยบายที่เราจะนำมาใช้ในอนาคตอันใกล้คือ

1) ใช้ระบบการจ่ายเงินภาครัฐผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้เงินสด

2) เปิดให้ขอใบอนุญาตและการติดต่อราชการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และทำให้ขอได้โดยง่ายเป็น One-stop service (...การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ .. 2565)

3) ปรับปรุงระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้ทันสมัยและโปร่งใส เพื่อป้องกันการทุจริตและเปิดข้อมูลให้ตรวจสอบได้ตามแนวทาง Open Government

4) ปรับเปลี่ยนการบริหารประเทศของรัฐบาลให้เป็น Digital Government และปรับใช้เทคโนโลยีสำหรับระบบการอนุมัติ  การอนุญาต การควบคุมตรวจสอบ เพื่อให้มีความโปร่งใส และลดการต้องใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นผู้ติดต่อกับประชาชน

ผมเชื่อมั่นว่าภายใต้รัฐบาลเพื่อไทยนี้ ปัญหาการคอร์รัปชันจะลดลง ความโปร่งใส่และเป็นธรรมจะเพิ่มมากขึ้น และตามมาด้วยความน่าเชื่อถือและการยอมรับจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งก็จะส่งผลกระทบที่ดีต่อเศรษกิจของประเทศต่อไปนายเศรษฐา กล่าวทิ้งท้าย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

‘เศรษฐา’ แจงทำแน่ ‘รถไฟฟ้า 20 บาท’ แต่ขอเวลาอีกนิด ยัน เชื่อมต่อทุกสาย ‘ใช้บัตรใบเดียว’

‘เศรษฐา’ แจงทำแน่ ‘รถไฟฟ้า 20 บาท’ แต่ขอเวลาอีกนิด […]

You May Like

Subscribe US Now