“รองเลขาฯ สปก.” แจงวงสัมมนา พปชร. ปม แก้ระเบียบเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ตีกรอบรายละเอียดภายใน15 ธ.ค.นี้ ยัน มอบเป็นของขวัญปีใหม่ ไม่เกิน 15 ม.ค. 67
วันที่ 21 ต.ค. 2566 เวลา 11.50 น. ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล จ.ภูเก็ต ในงานสัมมนา สส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสุรชัย ยุทธชนะ รองเลขาธิการ สปก. บรรยายพิเศษ นโยบายเปลี่ยนส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนด ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการปรับให้สอดคล้องกับเหตุผลและความจำเป็น
โดย สปก.4-01 มีข้อจำกัดเรื่องสิทธิประโยชน์ และการควบคุมใช้ประโยชน์ในที่ดินให้โอนได้เฉพาะทายาทและเครือญาติ แต่ในข้อเท็จจริงยังมีการเปลี่ยนมือตลอด จึงมีแนวคิดแก้ระเบียบในการเปลี่ยน ส.ป.ก. ทั้งการคัดเลือกผู้มีสิทธิ์ ระเบียบว่าด้วยการพัฒนาประโยชน์ และระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์การกู้เงินกองทุน
สำหรับเงื่อนไขการเปลี่ยน สปก.เป็นโฉนด ต้องเร่งรัดให้เสร็จตามที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ระบุว่า จะมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนชาวไทย ไม่เกินวันที่ 15 ม.ค. 2567 โดยหลักเกณฑ์เบื้องต้น ผู้ที่จะเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 ให้เป็นโฉนด ที่ควบคุมและอยู่ภายกำกับภายใต้กระทรวงเกษตรฯ จะต้องถือครอง ที่ดิน ส.ป.ก.ไม่น้อยกว่า 5 ปี หากเป็นการโอนให้กับทายาทต้องทำตามระเบียบกฎหมาย
รองเลขาฯ ส.ป.ก. กล่าวว่า ที่หลายคนเป็นห่วงว่าหากเปลี่ยนเป็นโฉนด ที่ดินจะไปอยู่ในมือของนายทุน ยืนยันว่า จะมีการควบคุมดูแลเรื่องการโอนและเปลี่ยนมือให้สามารถทำได้ คือ ผู้ที่โอนจะต้องเป็นเกษตรกรและใช้พื้นที่เพื่อเกษตรกรรมในพื้นที่ไม่เกิน 50 ไร่ เมื่อกำหนดหลักเกณฑ์นี้จะได้รับการควบคุมดูแล ซึ่งขณะนี้อนุกรรมการฯ ที่ดูแลเรื่องระเบียบต่างๆ จะเร่งไขแก้ระเบียบให้แล้วเสร็จในวันที่ 15 ธ.ค. 2566 เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าแล้ว โดยวันที่ 24 ต.ค.2566 รมว.เกษตรฯ จะมีการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเตรียมการในเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การบรรยายเรื่องดังกล่าวได้รับความสนใจจาก ส.ส.อย่างกว้างขวาง โดยสอบถามถึงรายละเอียดขั้นตอนการเปลี่ยน ส.ป.ก.หลังครอบครอง 5 ปี จะทำได้จริงหรือไม่ และหลังการซื้อขายเปลี่ยนมือรวมถึงกรณีหากมีการเปลี่ยนมือ จะต้องเสียภาษีอย่างไรเป็นต้น โดยรองเลขาฯ ส.ป.ก.ระบุว่า ในรายละเอียด เมื่อมีการแก้ไขสามารถโอนและซื้อขายได้ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในระเบียบ และเน้นย้ำว่าเป็นที่ดินเกษตรกรเพื่อเกษตรกรรมเป็นหลัก ส่วนขั้นตอนอื่นๆ สามารถดำเนินการได้ โดย ส.ป.ก.ของจังหวัดนั้นๆ
