“ปริญญา” หวั่น! ได้ สว.จัดตั้ง – บ้านใหญ่ แทน สว.อิสระ ขอ กกต.เปิดทางสื่อ – ปชช. สังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อความโปร่งใส

“ปริญญา” หวั่น! ได้ สว.จัดตั้ง – บ้านใหญ่ แทน สว.อิสระ ขอ กกต.เปิดทางสื่อ – ปชช. สังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อความโปร่งใส

วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ณ ห้อง Meeting A ชั้น 7 ที่ทำการชั่วคราวสมาคมนักข่าวฯ อาคารบางซื่อจังชั่น (ตึกแดง) ถนนกำแพงเพชร 2 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ จัดราชดำเนินเสวนา “เลือก สว. กติกาใหม่ ใครได้ใครเสีย ?” 

ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่จะหมดวาระในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ว่า ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาถือว่าผลงานนั้นเข้าเป้าของ คสช. เพราะ คสช. เป็นคนเลือกเข้ามาแต่ในแง่ของประชาชนอาจจะมีการตั้งคำถามขึ้นมามากหน่อย เพราะไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน โดยการเลือก สว.ที่ผ่านมาในฝ่ายของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนจะต้องเป็นคนให้คะแนนว่าเป็นอย่างไรบ้าง ขณะเดียวกันปฏิเสธไม่ได้ว่าสมาชิกวุฒิสภาชุดนี้ถือว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของ คสช. 

สำหรับกระบวนการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ครั้งนี้ถือว่าซับซ้อนที่สุดในโลกและไม่แน่ใจว่าจะบรรลุเป้าหมายในการได้ผู้แทนปวงชนอย่างแท้จริงหรือไม่ โดยซับซ้อนตั้งแต่ตัวระบบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ยังออกกฎระเบียบที่ห้ามการแนะนำตัว ยิ่งจะเป็นการสร้างปัญหา ซึ่งหากยังไม่ได้ สว.ชุดใหม่ สว.ชุดเดิมก็จะรักษากันไปจนกว่าจะได้ชุดใหม่เข้ามา ซึ่ง กกต. ก็ระบุชัดเจนว่าจะมีการประกาศ สว.ชุดใหม่ภายในวันที่ 2 กรกฎาคม แต่ปัญหาก็คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ เปิดช่องให้ผู้สมัครทุกคนมีสิทธิ์ร้องคัดค้านได้หากเห็นว่าการเลือกไม่ชอบมาพากล โดยหากมีผู้สมัครเป็นแสนคน ซึ่งแตกต่างจาก สส. ที่มีการสมัครแค่ 6,000 กว่าคน ดังนั้น หากมีการคัดค้าน จะทำให้การเลือก สว.ได้ประกาศผลตามที่วางไว้หรือไม่ ดังนั้น ในวันนี้ตนเองจึงเห็นว่า กกต.ควรจะมีการแก้ไขระเบียบ และประกาศใช้พร้อมกับพระราชกฤษฎีกา สว. ที่ยังไม่ได้ออกมา 

ขณะเดียวกันยังเห็นว่าการเลือกข้ามกลุ่มอาชีพ ในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ จะมีการรู้จักกันได้อย่างไร หากมีการห้ามแนะนำตัว เมื่อขั้นตอนเป็นเช่นนี้คนที่ได้รับเลือกคงเป็นคนที่มีการจัดตั้ง มีการระดมคนหรือมีบ้านใหญ่ รวมถึงมีเครือข่าย ส่วนผู้สมัครอิสระที่ไม่รู้จักใครหรือมีพวกพ้องก็จะลำบากมาก ดังนั้น การยิ่งจำกัดการแนะนำตัวมากเท่าไหร่คนที่ไม่ต้องแนะนำตัวมีโอกาสได้เป็นมากขึ้นเท่านั้น พร้อมยังเห็นว่าการเลือก สว.การเลือกผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่ได้เป็นการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่สำนักงานหรือบริษัทของใครจึงควรทำให้สาธารณะชนได้มีส่วนร่วมในระดับที่เหมาะสม เพราะตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญกำหนดแล้วว่าถ้าใคร ต้องการเลือก สว.ต้องสมัคร สว. พร้อมค่าสมัคร 2,500 บาท โดยประเด็นนี้ก็เท่ากับเป็นการกันคนส่วนใหญ่ออกไป 

ผศ.ดร.ปริญญา ยังกล่าวอีกว่า การที่ กกต. มีท่าทีว่าคนที่มาชักชวนให้สมัคร สว. มีท่าทีที่ผิดกฎหมายอีก ในเรื่องนี้ส่วนตัวมองว่าไม่จริง เพราะตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าการจูงใจให้เลือก สว.จับผิดก็ต่อเมื่อให้ผลประโยชน์ หรือให้ทรัพย์สินตอบแทนเพื่อจูงใจ ดังนั้นถ้าไม่ได้จงใจด้วยทรัพย์สินตอบแทนก็ถือว่าไม่มีความผิด และในทางกลับกันมองว่าเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำถ้าประชาชน เป็นผู้สมัครอิสระจำนวนมาก ก็จะได้ สว.ที่เป็นผู้แทนอิสระ และเป็นตัวแทนประชาชนชาวไทยมากขึ้น

ขณะเดียวกันยังไม่ได้เห็นช่องให้ประชาชนและสื่อมวลชนเข้าเป็นผู้สังเกตการณ์เนื่องจาก กกต.ยังไม่ประกาศ แต่ตามกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามผู้สังเกตการณ์และสื่อมวลชนดังนั้น กกต.ควรอนุญาตให้มีผู้สังเกตการณ์จากสื่อมวลชนและประชาชน เพื่อให้การเลือก สว. มีปัญหาน้อยสุด มีความโปร่งใสสาธารณะชนตรวจสอบได้ ตั้งแต่ในระดับอำเภอจนถึงระดับประเทศ และเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะหากไม่โปร่งใสในขั้นตอนข้อร้องเรียนก็จะมาก และจะประกาศผลในวันที่ 2 กรกฎาคมไม่ได้ และ สว.ชุดนี้ก็จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เป็นเรื่องรังเกียจ สว.ชุดนี้แต่เมื่อหมดวาระก็ต้องพ้นหน้าที่ และให้ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่

“ยิ่งจำกัดการแนะนำตัวให้ยากเท่าไหร่ คนที่ไม่ต้องแนะนำตัวก็ได้เป็นและจะมีโอกาสมากเท่านั้น แม้จะมีบัญญัติในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าห้ามให้ทรัพย์สินจูงใจ ดังนั้นจึงตั้งคำถามว่าแล้ว กกต.จะไปตรวจสอบอย่างไรหรือควบคุมอย่างไรถ้าเขามีการชักชวนกันและให้ประโยชน์กัน อันนี้ถือว่าเป็นปัญหามาก ยิ่งไปจำกัดการแนะนำคนทั่วไปหรือผู้สมัครอิสระก็มีโอกาสน้อย เช่นในรอบแรกทุกคนมี 2 คะแนน หนึ่งคะแนนเลือกตนเองอีกหนึ่งคะแนนเลือกคนอื่น แต่อาจจะมีคนเลือกคนอื่นสองคะแนนตั้งแต่รอบแรกเพราะไม่มีข้อห้าม” ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว 

ผศ.ดร.ปริญญา ชี้ว่า การออกระเบียบของ กกต. ไม่ได้ฟังใครหรือถามใคร ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องมีการประชุม กกต.เพื่อออกระเบียบใหม่ได้ โดยข้อไหนที่สังคมทักท้วงก็ปรับแก้และประกาศพร้อมกับพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไปได้เลย โดยเฉพาะระเบียบการแนะนำตัวด้วยเอกสารในวันเลือก เพราะคนที่สมัครการจะรู้จักกันข้ามกลุ่มอำเภอข้ามกลุ่มอาชีพได้อย่างไร ดังนั้น กกต. จึงต้องหาวิธีการเพื่อให้ได้รู้จักกัน พร้อมกันนี้ยังเห็นว่า สมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ถือว่ามีอิทธิพลต่อการเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ เพราะที่ผ่านมามีการตั้งคำถามว่าองค์กรอิสระมีความเป็นอิสระจริงแค่ไหน 

 

#สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ #ราชดำเนินเสวนา #เลือกสวกติกาใหม่ใครได้ใครเสีย #ปริญญาเทวานฤมิตรกุล #คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ #สมาชิกวุฒิสภา #สว #ข่าวการเมือง #MissionThailand

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

พอช.หารือ ธนาคารพัฒนาเอเชีย ขอใช้เงินกู้ดำเนินโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเจ้าพะยาตอนล่าง วงเงินกว่า 3 แสนล้าน

พอช.หารือ ธนาคารพัฒนาเอเชีย ขอใช้เงินกู้ดำเนินโครง […]

You May Like

Subscribe US Now