ชู ต้นแบบจัดการขยะ “วัดจากแดง” จากแนวคิด “เปลี่ยนขยะเป็นบุญ”สู่พลังขับเคลื่อนชุมชนยั่งยืน

ชู ต้นแบบจัดการขยะ “วัดจากแดง” จากแนวคิด “เปลี่ยนขยะเป็นบุญ”สู่พลังขับเคลื่อนชุมชนยั่งยืน

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 วัดจากแดง ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน ชาวชุมชนคุ้งบางกะเจ้า ร่วมกันจัดเก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณคุ้งบางกะเจ้า ในกิจกรรม “อาสารักษ์แม่น้ำ ลงเรือเก็บขยะ หลังวันลอยกระทง ปีที่5” กิจกรรมนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปริมาณขยะไหลผ่านคุ้งบางกะเจ้าไปยังปากแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมหลังวันลอยกระทง และเป็นการช่วยรักษาความสะอาดให้กับแม่น้ำ ซึ่งปีนี้ปริมาณขยะที่เก็บได้ ควันหลงหลังวันลอยกระทงมากถึง 713.95 กิโลกรัม (ถุงพลาสติก 16.8, โฟม 28.81, ขวดพลาสติก 18.5, วัชพืช(ใบตอง,ต้นกล้วย) 356.3 , ขวดแก้ว 36.5, พลาสติกรวม 104.94, ไม้ 57, ตะปู 3.6, อุปกรณ์ไฟฟ้า 5.7, รองเท้า 18, หมวกกันน็อค 5.2, ทั่วไป 62.5, ดอกพุดพลาสสติก 0.1, รวม 713.95 กิโลกรัม)

ทั้งนี้ จากปริมาณขยะจำนวนมากดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า หลังความสนุกสนานและสืบทอดประเพณีลอยกระทง”ผ่านพ้นไป แต่สิ่งที่ที่เหลือทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้านั่นก็คือ ซากกระทงและขยะอื่นๆ จำนวนมหาศาล ที่ล่องลอยอยู่ในแม่น้ำลำคลอง สร้างภาระในการจัดเก็บให้บรรดาเทศบาลหรือหน่วยงานที่รับปิดชอบในพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้แม่น้ำลำคลองเน่าเสียสร้างมลพิษต่างๆตามมาอีก

ที่สำคัญ นอกจากขยะบางประเภท จะสร้างทั้งมลพิษและทำให้แม่น้ำลำคลองเน่าเสียแล้ว โดยเฉพาะขยะพลาสติกต่างๆ หากปล่อยผ่านลงสู่ทะเล ก็จะเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำทำให้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงเป็นที่มาของวัดจากแดง ใจการจัด”กิจกรรมลงเรือเก็บขยะหลังวันลอยกระทง ปีที่5” โดยพระมหาประนอม ธัมมาลังกาโร เจ้าอาวาสวัดจากแดง ได้นำคณะภาคีเครือข่ายลงเรือทำกิจกรรมเก็บขยะ โดยมีบรรดาจิตอาสาที่มีใจรักสิ่งแวดล้อมจากหน่วยงานต่างๆ ขานรับเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างเนืองแน่น อาทิ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน โรงเรียน แลประชาชนทั่วไป ที่ต่างเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมกว่า100ราย พร้อมร่วมมือร่วมใจทำหน้าที่กันอย่างเข้มแข็ง ด้วยการลงเรือเก็บขยะ ตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา รวมระยะทางกว่า 7-8 กิโลเมตร และพื้นที่โดยรอบ เช่น ท่าเรือ ประตูระบายน้ำ และทุ่นดักขยะที่มีขยะลอยไปติดเป็นจำนวนมาก โดยขยะที่เก็บได้ เช่นกระทง,พลาสสติก,โฟม เป็นต้น

พระมหาประนอม ธัมมาลังกาโร เจ้าอาวาสวัดจากแดง กล่าวว่า ขยะที่เราเก็บได้ในวันนี้มีจำนวนมหาศาล ซึ่งเราจะนำไปใช้ให้ประโยชน์อย่างสูงสุด เช่น ขยะพลาสติก จะนำไปนึ่งทำน้ำมัน ส่วนขยะโฟมก็จะนำไปทำกระถาง และกาว พวกขยะเปียก ขยะอินทรีย์ จำพวก หยวกกล้วย ใบตอง ดอกไม้ จะนำไปทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ส่วนขยะนอกเหนือจากนี้ ที่นำไปนึ่งไม่ได้ ทำปุ๋ยไม่ได้ ก็จะนำไปทำเชื้อเพลิง RDF หรือ เชื้อเพลิงแห้งสำหรับโรงไฟฟ้า

ด้านคุณปารณีย์ แก้วเกิดสี ผู้จัดการโครงการสิ่งแวดล้อม แม่งานคนขยันของวัดจากแดง กล่าวว่าโครงการนี้เราทำการจัดขึ้นเป็นปีที่5แล้ว ภายใต้แนวคิด”เปลี่ยนขยะเป็นบุญ” เพราะหลังจากงานวันลอยกระทง จะมีจำนวนกระทงลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมาก ทำให้เกิดขยะจำนวนมหาศาล..เราจึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น โดยชักชวนหน่วยงานองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนเยาวชน นักเรียนนิสิตนักศีกษามาเข้าร่วมโครงการ โดยเน้นการปลูกฝังให้เกิดจิตสำนึกไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ผู้จัดการโครงการสิ่งแวดล้อม ของวัดจากแดง กล่าวเสริมอีกว่า เรามีความคาดหวังว่าอยากให้เยาวชนหรือน้องๆเกิดความตระหนักรู้ ในอันตรายและปัญหาของขยะ ซึ่งผลปรากฏว่ามีน้องๆเยาวชนนักเรียนทั้งชายและหญิงให้ความสนใจเดินทางเข้ากิจกรรมเก็บขยะในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งชาวบ้านชาวในชุมชนต่างก็เดินทางเข้ากิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ เคยมีผลการวิจัยจากต่างประเทศ ซึ่งได้กล่าวไว้ว่าขยะต่างๆที่เราทิ้งไปอีก20 ปีมันจะกลับมาหาเรา ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันจะมาในรูปแบบใดสร้างผลเสียขนาดไหน ขยะพวกนี้เป็นสาเหตุที่สำคัญในการก่อเกิดโรคมะเร็ง หากเราลดการใช้วัสดุที่สร้างขึ้นจากการสังเคราะห์เชื่อเลยว่าคนจะเป็นมะเร็งน้อยลง เราเน้นการลดการใช้และหากจะใช้ควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ด้านคุณทิพากร จุลกทัพพะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมวัดจากแดง ซึ่งนับเป็นคีย์แมนคนสำคัญของโครงการนี้ กล่าวว่า .จริงๆแล้ว โครงการนี้เกิดจากดำริของท่านเจ้าอาวาสวัดจากแดง ท่านได้ให้แนวคิดไว้ว่าการดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญ

ทั้งนี้ ประเพณีการลอยกระทงนั้น มีความสำคัญซึ่งจะทิ้งอะไรลงในแม่น้ำก็ควรให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมด้วยควรมีความใส่ใจสิ่งแวดล้อม บางครั้งท่านก็นำอวนมาล้อมให้ผู้คนมาลอยกระทงภายในอวน ทว่ากระทงที่มาจากที่อื่นนอกอวนทางวัดก็ต้องจัดการเก็บทิ้ง พอวัดได้ทำโครงการเก็บกระทงนี้ขึ้น ครูอาจารย์โรงเรียนในละแวกใกล้เคียงจึงได้ส่งนักเรียนมาเรียนรู้การรักษาสิ่งแวดล้อม การคัดแยกขยะ การตระหนักรู้ในพิษภัยของขยะที่จะก่อเกิดมลพิษทำลายสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบัน กระทงโฟม แทบจะไม่มีให้เห็นแล้ว แต่กระทงที่ทำจากวัตถุดิบทางธรรมชาติก็ทำการคัดแยกได้ไม่ง่ายเพราะยังมีวัสดุสังเคราะห์อื่นๆเป็นองค์ประกอบ เช่นตะปู โดยบางวันเราเก็บตะปูได้ถึง 4 กิโลกรัมก็มี ดังนั้น สิ่งที่วัดจากแดงทำอยู่ในทุกวันนี้คือ การชะลอความเสื่อมของธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องน้ำก็ดี พร้อมทั้งให้ความรู้ต่อเยาวชนในเรื่องของการฉลาดใช้ รวมทั้งเรายังทำงานร่วมกับ”ทช”กรมทรัพยากรชายฝั่งทะเลซึ่งเขาจะมาสำรวจและเก็บสถิติทุกวันพุธ อีกด้วย

คุณทิพากร ยังย้ำว่า วันนี้วัดเป็นเหมือนศูนย์กลางในการให้ความรู้..เราใช้ธรรมะสอน..เพื่อจะได้วางใจให้ถูกต้อง..และสร้างการตระหนักรู้ ความมีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมไทยให้กับเยาวชนและผู้สนใจ..โดยทางวัดจะทำโครงการเก็บขยะให้เกิดความยั่งยืนต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

 "มาดามเดียร์" เปิดตัวชิง "หน. ปชป." ยึด 3 แนวทาง ฟื้นเชื่อมั่น !

 “มาดามเดียร์” เปิดตัวชิง “หน. ป […]

You May Like

Subscribe US Now