“ผู้แทนการค้าไทย” มั่นใจ “ยางพาราไทย” ไม่ติดปัญหา “กฎหมาย EUDR ของสหภาพยุโรป” เร่งเดินหน้า “ผลักดัน-ขับเคลื่อน-สนับสนุน-ส่งเสริม” ให้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางตลาดยางพารา”
ศ.ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เป็นประธานประชุมโครงการยางล้อ เพื่อเตรียมความพร้อมการประกาศใช้กฎหมาย EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) ของ “สหภาพยุโรป” ร่วมกับ นายเสกสรร ไตรอุโฆษ ประธาน SNPT นายกรกฎ กิตติพล เลขาสมาคมยางพาราไทย และนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย
ศ.ดร. นฤมล กล่าวว่า ตามที่ “สหภาพยุโรป” เตรียมใช้กฎหมาย EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ที่สินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า การนำเข้ายาง และผลิตภัณฑ์จากยางจะต้องมาจากสวนยางที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่อยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ พื้นที่อนุรักษ์ และพื้นที่ป่า รวมถึงการจัดการสวนยางพารา ที่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่ส่งผลกระทบต่อสังคม ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าระดับโลก และเชื่อมั่นว่า จะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรชาวสวนยางขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) แล้วกว่า 90% สามารถระบุที่ตั้งของสวนยางได้ พร้อมรองรับตามกฎหมาย “EUDR” โดย กยท.ได้ดำเนินการควบคู่กับการพัฒนาระบบการจัดการสวนยางอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล เพิ่มโอกาสส่งออกยางไทยในตลาดโลก
นอกจากนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าว จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามมาตรการ EUDR มาอย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และการยางแห่งประเทศไทย ได้ร่วมหารือกับหน่วยงานของสหภาพยุโรป ในการผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อให้ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางของไทยสามารถส่งออกได้ตามมาตรฐาน สร้างรายได้ และเพิ่มราคาให้กับชาวสวนยางของไทย
“การขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน เกษตรกร และสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล หารือและสร้างแนวทางขับเคลื่อนไปด้วยกัน โดยเฉพาะแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ปลูกยาง รวมถึงการตลาด เพื่อประโยชน์ต่อชาวสวนยาง รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน โดยจะนำปัญหา และข้อเสนอแนะไปดำเนินการ รวมถึงการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รองรับการประกาศใช้กฎหมาย EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) ของ “สหภาพยุโรป” ทั้งนี้ ตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางตลาดยางพารา ผลักดันการส่งออกยางพาราปีละ 2.5 – 3 ล้านตัน” ศ.ดร. นฤมล กล่าว