รมว.สุดาวรรณ” เล็งยกระดับ “แหล่งน้ำพุร้อนของไทย” เป็น “สปา ทาวน์” แบบยุโรป หรือ “ออนเซ็น ทาวน์” แบบญี่ปุ่น มอบ “กรมการท่องเที่ยว” ออกแบบ 7 เส้นทาง

“รมว.สุดาวรรณ” เล็งยกระดับ “แหล่งน้ำพุร้อนของไทย” เป็น “สปา ทาวน์” แบบยุโรป หรือ “ออนเซ็น ทาวน์” แบบญี่ปุ่น มอบ “กรมการท่องเที่ยว” ออกแบบ 7 เส้นทางท่องเที่ยวสายน้ำพุร้อนของไทย หวัง “สร้างแบรนด์สู่ตลาดสากล-กระจายการท่องเที่ยวสู่เมืองรอง” 

 วันที่ 22 ม.ค. 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่จังหวัดระนอง พร้อมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะรัฐมนตรี เพื่อตรวจราชการที่จังหวัดระนอง ก่อนที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ จังหวัดระนอง ในวันที่ 23 ม.ค. 2567

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า โอกาสนี้จะได้ดูการบริหารจัดการ “บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน” ซึ่งเป็นบ่อน้ำแร่ร้อนแหล่งเดียวในประเทศไทย ที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปนอยู่เลยทำให้ได้น้ำแร่ที่ใส ไม่มีกลิ่นกำมะถัน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เนื่องจากมีน้ำแร่คุณภาพดี ได้มาตรฐานสากล อยู่ใจกลางเมืองท่ามกลางธรรมชาติ
รอบด้าน

“ซึ่งประเทศไทยมีแหล่งน้ำพุร้อน จำนวน 118 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ 71 แห่ง รองลงมาเป็นภาคใต้ 32 แห่ง ภาคกลาง 12 แห่ง และภาคตะวันออก 2 แห่ง การใช้ประโยชน์พื้นที่มีทั้งการใช้ประโยชน์เพื่อเป็นพื้นที่สาธารณะ (แหล่งน้ำสาธารณะ) ของชุมชนหรือเมือง และการใช้ประโยชน์เพื่อการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม แหล่งน้ำพุร้อนหลายๆ แห่งยังไม่มีการใช้ประโยชน์เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติสูง หรืออยู่ในพื้นที่ชนบทที่มีการเข้าถึงยาก ส่วนแหล่งน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองนั้นได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งแช่และอาบน้ำพุร้อนของเมือง รวมทั้งพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดดึงดูดใจนักท่องเที่ยว” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมการท่องเที่ยว พัฒนาแหล่งน้ำพุร้อนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยกระดับสู่ Spa Town แบบยุโรป หรือ Onsen Town แบบญี่ปุ่น เพื่อให้เป็นเศรษฐกิจน้ำพุร้อน (Hot Spring Economy) ของไทยที่มีศักยภาพและสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองรองที่รัฐบาลนี้มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวให้สามารถยกระดับให้เป็นเมืองหลักของการท่องเที่ยวให้ได้

อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นของประเทศไทยถือว่าพัฒนาหลังประเทศในยุโรป และญี่ปุ่นกว่า 1,000 ปี จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำโดยเร่งด่วน “การพัฒนาจะต้องเชื่อมโยงร้อยเรียงแหล่งน้ำพุร้อนในจังหวัดใกล้เคียงต่างๆ ทั้งระบบเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสายน้ำพุร้อน หรือสายเวลเนส ในเบื้องต้นมอบหมายให้กรมการท่องเที่ยวออกแบบเป็น 7 เส้นทาง หรือ 7 Hot Springs or Wellness Routes เพื่อสร้างแบรนด์การตลาดสู่ตลาดสากล และกระจายการท่องเที่ยวสู่เมืองรอง” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว

“พร้อมกันนี้ จะต้องสร้างองค์ความรู้และแนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีมาตรฐานสากลสอดคล้องกับการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal) ให้สามารถนำไปเป็นต้นแบบในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนธรรมชาติต่อไป ที่ขาดไม่ได้จะต้องทำการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถต่อยอดธุรกิจบริการสุขภาพที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำพุร้อนธรรมชาติ และพัฒนาบุคลากรในพื้นที่ให้มีความรู้และทักษะในการให้บริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และสามารถพัฒนา ต่อยอด และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนให้ได้” นางสาวสุดาวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

 

#สุดาวรรณหวังศุภกิจโกศล #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา #ฐาปนีย์เกียรติไพบูลย์ #ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย #ครมสัญจรจังหวัดระนอง #บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน #ททท #ข่าวท่องเที่ยว #ข่าวการเมือง #MissionThailand

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

"ช่อง 7 HD" เปิดศักราชใหม่ 2567 กับเวลาพิเศษ "พรีเมียมไพรม์ไทม์" ใกล้ชิดติดหน้าจอถึงคอแฟนละครบู๊ แอ็คชั่น เต็มเปี่ยมด้วยเทคนิคเสมือนจริง (AI) บนโลกปัญญาประดิษฐ์คอมพิวเตอร์กราฟิกระดับสากล

“ช่อง 7 HD” เปิดศักราชใหม่ 2567 กับเวล […]

You May Like

Subscribe US Now