“หวางอี้” ชี้ประเด็น “ไต้หวัน” เป็นภัยคุกคามสัมพันธ์ “จีน-สหรัฐ”
นายหวางอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ชี้ประเด็นอธิปไตยไต้หวันเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดต่อความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ
สำนักข่าว AFP และรอยเตอร์สรายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศจีน ที่เปิดเผยถึงการพบหารือระหว่างนายหวางอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กับเจค ซัลลีแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐที่กรุงเทพเมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 27 ม.ค. 2567) ว่าเป็นการพูดคุยแบบตรงไปตรงมา โดยเฉพาะในประเด็นไต้หวัน ซึ่งถือเป็นประเด็นที่เผ็ดร้อนและเห็นต่างมากที่สุดระหว่างจีนและสหรัฐ
โดยการพบกันระหว่างหวางอี้และซัลลีแวน มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้พบหารือกับ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่นครซานฟรานซิสโก ระหว่างการประชุมผู้นำเอเปค เมื่อเดือน พ.ย. 2566 หรือ เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ซึ่งครั้งนั้น สองผู้นำเห็นชอบที่จะให้มีการเปิดสายด่วนระหว่างประธานาธิบดี โดยตกลงที่จะให้มีการฟื้นฟูการติดต่อสื่อสารระหว่างกองทัพกับกองทัพอีกครั้ง และตกลงที่จะทำงานร่วมกันเรื่องการควบคุมการผลิตยาเฟนทานิล อย่างไรก็ตามผู้นำจีนและสหรัฐยังคงตกลงกันไม่ได้ในประเด็นไต้หวัน
สำหรับการพบครั้งนี้ จึงถือเป็นความพยายามอีกครั้งของจีนและสหรัฐที่จะหารือเพราะเป็นประเด็นสำคัญและละเอียดอ่อน เรียกได้ว่าเป็นตัวกำหนดทิศทางความสัมพันธ์จีน-สหรัฐเลยก็ว่าได้ ซึ่งหวางและซัลลีแวนก็เห็นชอบที่จะหารือด้วยความระมัดระวัง เพื่อที่จะช่วยให้สีและไบเดนได้คงช่องทางการสื่อสารพูดคุยระหว่างกันต่อไป
ทั้งนี้ แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศจีนเผยว่า หวางได้บอกกับซัลลีแวน ว่าจีนกับสหรัฐ ควรที่จะปฏิบัติต่อกันเยี่ยงประเทศที่เท่าเทียมกัน และเคารพในหลักการและผลประโยชน์ของอีกฝ่าย แทนที่จะจ้องทำลายกัน นอกจากนี้ ก็ควรจะให้เกียรติกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติและร่วมมือกันเพื่อสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งคิดหาหนทางที่จะอยู่ร่วมกันแบบไม่ขัดแย้งกัน
นอกจากนี้ นายหวางอี้ ยังบอกด้วยว่า ไต้หวันเป็นกิจการภายในของจีน และการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านไปก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และกล่าวว่า “การประกาศเอกราชของไต้หวัน ถือเป็นความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดของสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน และการประกาศเอกราชของไต้หวัน ก็เป็นความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดที่จะทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างจีนกับสหรัฐเช่นกัน”
ขณะที่ทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์ เผยว่า หวางอี้และซัลลีแวน ต่างยอมรับว่ากองทัพของสองฝ่ายได้กลับมาเปิดช่องทางติดต่อสื่อสารกันอีกครั้ง และเรื่องนี้ถือเป็นความสำคัญที่จะต้องรักษาไว้ ซัลลีแวนยังย้ำด้วยว่า แม้สหรัฐและจีนจะเป็นคู่แข่งกัน แต่ทั้งสองประเทศจำเป็นต้องระมัดระวังไม่ให้แข่งกันจนเลยเถิดกลายเป็นความขัดแย้งและการเผชิญหน้า และว่าหวางกับซัลลีแวนจะพูดคุยเรื่องการกำหนดวันเวลาให้สีและไบเดนได้ต่อสายพูดคุยกัน รวมทั้ง เรื่องการเตรียมจัดประชุมครั้งแรกว่าด้วยเรื่อง AI ในฤดูใบไม้ผลิหรือราวๆ 2-3 เดือนนี้ด้วย ทั้งคู่ยังพุดคุยในประเด็นอื่นๆ รวมทั้งสถานการณ์ทะเลแดง, ยูเครน, เกาหลีเหนือและทะเลจีนใต้ด้วย โดยหวางอี้และซัลลีแวนมีกำหนดพบปะที่กรุงเทพเป็นเวลาสองวัน คือ 26-29 ม.ค. 2567
เรื่อง : AFP , รอยเตอร์ส
ภาพนิ่ง : CCTV
#AFP #รอยเตอร์ส #แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศจีน #หวางอี้ #รัฐมนตรีต่างประเทศจีน #เจคซัลลีแวน #ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐ #ไต้หวันประกาศเอกราช #ไต้หวัน #ข่าวการเมือง #ข่าวต่างประเทศ #MissionThailand