ตามรอย เกษตรกรต้นแบบแหล่งเรียนรู้พืชสมุนไพร ต่อยอดสู่หมอยาภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.แพร่ “ชาลี ขวัญเมือง” สามารถเพิ่มมูลค่าผลิตยาสมุนไพร สร้างรายได้กว่า 3 เท่าต่อปี
นางจันนิภา ศรีชัยวาลย์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ในเขตปฏิรูปที่ดินฯ แห่งนี้ เดิมเกษตรกรปลูกพืชเชิงเดี่ยว ต่อมาทางสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี(สพท.)ได้มอบหมายให้ ส.ป.ก. แพร่ เข้ามาอบรมให้ความรู้เกษตรกร คือ นายชาลี ขวัญเมือง เกี่ยวกับโครงการวนเกษตร แต่เนื่องจากนายชาลี มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพืชสมุนไพร ทางหน่วยงานจึงได้เน้นเป็นการอบรมให้ความรู้ ปลูกพืชสมุนไพรต่างๆเป็นหลัก โดยนำปัจจัยมาส่งเสริมจนกลายเป็นต้นแบบเกษตรกรที่เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชสมุนไพร จนเต็มทั้งพื้นที่ 10 ไร่
ทั้งนี้ นอกจากการแนะนำส่งเสริมปลูกพืชสมุนไพรแล้ว เราก็ยังนำโรงอบสมุนไพรพลังงานแสงอาทิตย์ 1 หลัง มามอบให้เพื่อใช้อบแห้งวัตถุดิบใบยาสมุนไพร ก่อนนำไปแปรรูปบรรจุเป็นยาสมุนไพรรูปแบบชนิดต่างๆ นอกจากโรงอบตากแห้งวัตถุดิบแล้ว ทางเกษตรกรยังต้องการโรงเก็บสมุนไพรด้วย ซึ่งทางเราอยู่ระหว่างดำเนินการประสานส่วนกลางจัดการส่งเสริมตามขั้นตอนต่อไป รวมถึงยังต้องมีพื้นที่สำหรับจัดให้เป็นแหล่งอบรมเกี่ยวกับการใช้วัตถุดิบ เพื่อต่อยอดเรื่องของสมุนไพรให้ครบวงจรอีกด้วย
“การที่เกษตรกร มีโรงอบแห้งสมุนไพรถือเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การได้รับมาตรฐานคุณภาพความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งคุณหมอชาลี ยังเพิ่มมูลค่า ด้วยการทำแพคเกจจิ้ง ยาสมุนไพรที่มีมากมายหลายร้อยหลายพันชนิด สร้างรายได้จำนวนมากทั้งจากที่ขายเป็นวัตถุดิบ และขายเป็นยาสมุนไพร ถือได้ว่าสามารถต่อยอดสร้างมูลค่าให้เกษตรกร ได้ถึง 3 เท่าต่อปี ซึ่งตรงเป้าหมายของ ส.ป.ก. ของเรา ตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ค่ะ“
สำหรับช่องทางจำหน่ายยาสมุนไพรนั้น นอกจากทาง หมอชาลี จะจำหน่ายโดยตรงแล้ว ทาง ส.ป.ก. แพร่ ยังแนะนำให้จำหน่ายตามช่องทางต่างๆ เช่น การออกบูธ และงานกิจกรรมต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
“นโยบายของ ส.ป.ก. แพร่ คือเราต้องการเข้ามาส่งเสริมเกษตรกร เพื่อสร้างความยั่งยืนในพื้นที่ให้เกษตรกร ได้รับความรู้ จากเคยปลูกพืชเกษตรเชิงเดี่ยว ก็เป็นวนเกษตร ซึ่งเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังต่อยอดผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ ทำให้เกษตรกรอยู่ดีมีสุขเพราะเราไม่ใช้สารเคมี จึงถือว่าโครงการของ ส.ป.ก. แพร่ จุดนี้เป็นการส่งเสริมเกษตรกรครอบคลุมทั้ง สุขภาพ ความเป็นอยู่และรายได้ที่ดีขึ้นค่ะ” นางจันนิภา ศรีชัยวาลย์ ปฎิรูปที่ดินจังหวัดแพร่ กล่าวย้ำ
ด้าน นายชาลี ขวัญเมือง หรือที่รู้จักกันในชื่อ หมอชาลี นั้น ได้เล่าว่า ส่วนตัวสนใจใฝ่รู้เกี่ยวกับตำรับยาสมุนไพรมาตั้งแต่ยังบวชเป็นพระช่วงอายุ 20 กว่าปี จากนั้นเมื่อได้สึกออกมา และเข้ามาสืบทอดทำกินในที่ดินเขตปฏิรูปแทนบิดา ก็ได้ใช้ความรู้จากการไปอมรมป่าเศรษฐกิจ ป่าชุมชน และวนเกษตรที่ทาง ส.ป.ก. แพร่เข้ามาให้ความรู้ส่งเสริมปลูกพืช และจากการที่มีความรู้พื้นฐานทางสมุนไพร จึงได้ต่อยอดปลูกสมุนไพรเป็นอาชีพ สร้างรายได้มั่นคงให้ตนเองและครอบครัวจนถึงปัจจุบันนี้
“การรักษาโรคด้วยยาสมุนไพรนั้น ผมเริ่มจากการจัดปรุงยาดูแลรักษาตัวเองด้วยอาการที่เป็นโรคนิ่ว ซึ่งถือเป็นโรคที่ทำให้เจ็บปวดทรมานมาก เมื่อรักษาตัวเองจนหายแล้ว ก็มีความมั่นใจในการปรุงยารักษาโรคของตัวเองมากขึ้น ประกอบกับการได้รับการส่งเสริมจากส.ป.ก. และไปอบรมความรู้เพิ่มเติมต่างๆ แล้วนำมาต่อยอดปรับปรุงยาให้ได้คุณภาพ จนยาสมุนไพรของผมได้รับการยอมรับจากผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยโรคต่างๆ ทำให้มีชื่อเสียง และผมก็สามารถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ผู้มาเรียนรู้ต่อไปได้อีกด้วย”
ทั้งนี้ ในเรื่องการเพิ่มพูนความรู้เทคโนโลยีนั้น ที่ภาคภูมิใจคือ ทาง ส.ป.ก.ได้มอบโรงตากอบแห้งสมุนไพร พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีประโยชน์มาก เพราะทำให้ใบยาแห้งไม่มีเชื้อรา เก็บรักษาได้นานหลายปี สร้างมาตรฐานของสมุนไพรและได้รับการตอบรับอย่างมากจากร้านค้าสมุนไพรทั่วไป ที่สั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ทั้งเดินทางมาติดต่อที่แปลงเรียนรู้สมุนไพร หมู่ที่ 5 ตำบลร้องกวาง และทางเฟสบุ๊ค ชื่อสถานที่ผลิตยาแผนโบราณขวัญเมืองโอสถ (หมอชาลี ขวัญเมือง) เป็นต้น ซึ่งตนเองยืนยัน จะมุ่งมั่นรักษาคุณภาพยาสมุนไพร ยึดเป็นอาชีพหลักต่อไป