ดร. ซก ซกกรัดทะยา (H.E. Dr. Sok Sokrenthya) ที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมคณะฯ เข้าพบ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไทย เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะและเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา และกระทรวงคมนาคมของไทย
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เกียรติที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาเข้าพบ เพื่อหารือความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยว
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ดร. ซก ซกกรัดทะยา (H.E. Dr. Sok Sokrenthya) ที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมี นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร และการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมหารือด้วย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีภารกิจหลักในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและให้บริการคมนาคมขนส่ง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยปัจจุบัน กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองกับระบบราง (MR – Map) และโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทยหรือแลนด์บริดจ์ (Land Bridge) ที่จะนำไปสู่การเชื่อมโยงการขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวระหว่างกันในภูมิภาค
ด้าน ดร. ซก ซกกรัดทะยา ได้หารือถึงความเป็นไปได้ เรื่องการเปิดใช้ด่านพรมแดนบ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท เป็นการชั่วคราว ก่อนการก่อสร้างอาคารด่านศุลกากรและถนนเชื่อมต่อสะพานข้ามพรมแดนแห่งใหม่แล้วเสร็จ รวมถึงได้หารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องการโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและนำไปสู่การส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัมพูชา -ไทย ภายหลังการเปิดประเทศของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมระหว่างอีสานใต้กับกัมพูชา และสนับสนุนให้มีการเปิดให้บริการเที่ยวบินโดยสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airline) จากจังหวัดบุรีรัมย์ไปยังเมืองท่องเที่ยวของกัมพูชา ด้วย