นักวิจัย มทร.ธัญบุรี ทำสำเร็จ พัฒนา “ก้างปลาหมอคางดำ”เป็นสุดยอดอาหารเสริมบำรุงร่างกาย ลดการแพร่ระบาด

นักวิจัย มทร.ธัญบุรี ทำสำเร็จ พัฒนา “ก้างปลาหมอคางดำ”เป็นสุดยอดอาหารเสริมบำรุงร่างกาย ลดการแพร่ระบาด

อาจารย์และนักวิจัย คณะการแพทย์บูรณาการ มทร.ธัญบุรี โดยผศ.ดร.พท.ป.วัชระ ดำจุติ อ.ดร.สุริยา ชัยวงค์ และน.ส.ชลิตรา วงษ์นุ่ม คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากก้างปลาหมอคางดำ ผลงานใหม่ที่ผสานการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ด้วยการสกัดแคลเซียมจากก้างปลาหมอคางดำ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของผู้บริโภค ทั้งยังช่วยลดการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำ และอยู่ระหว่างการจดอนุสิทธิบัตรกรรมวิธีการผลิต

ผศ.ดร.พท.ป.วัชระ ดำจุติ หนึ่งในผู้วิจัย จากคณะการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เผยว่าแคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะในกระบวนการสร้างและบำรุงรักษากระดูกและฟัน การขาดแคลเซียมอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคกระดูกพรุน โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ และยังส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของกระดูกในวัยเด็กและวัยรุ่น ดังนั้น การได้รับแคลเซียมที่เพียงพอจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมสุขภาพที่ดีในทุกช่วงวัย ประกอบกับอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ในปัจจุบัน ปลาหมอคางดำซึ่งเป็นสายพันธุ์ต่างถิ่นได้แพร่ระบาดในประเทศไทยและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำอย่างรุนแรง โดยมีการแพร่กระจายที่มากกว่า 19 จังหวัดทั่วประเทศ ทางกรมประมงได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด รวมถึงการตั้งจุดรับซื้อปลาหมอคางดำเพื่อนำไปแปรรูป ซึ่งตนและทีมวิจัย จึงได้ร่วมกันหาแนวทางการแก้ปัญหา จนนำมาสู่การนำปลาหมอคางดำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

 ทีมนักวิจัย ได้อธิบายว่า หนึ่งในแนวคิดที่ได้รับการสนับสนุนคือการนำปลาหมอคางดำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากปลาชนิดนี้มีแคลเซียมและสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ การใช้กระดูกปลาหมอคางดำสกัดแคลเซียมเป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพ และมีความบริสุทธิ์สูง โดยกระบวนการสกัดไม่ทำลายคุณค่าทางโภชนาการอื่น ๆ ของปลา และแคลเซียมที่ได้จากปลายังมีความโดดเด่นในเรื่องความสามารถในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งอาจดีกว่าแคลเซียมที่ได้จากแหล่งอื่น ๆ ขณะเดียวกัน การนำก้างปลาหมอคางดำมาใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน กล่าวคือเป็นการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างยั่งยืนและลดผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม โดยลดจำนวนปลาหมอคางดำในระบบนิเวศซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

 “ในการดำเนินการพัฒนาวิธีการสกัดแคลเซียมคาร์บอเนตจากก้างปลาหมอคางดำเพื่อใช้ในการเตรียมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีกระบวนการสำคัญโดยสรุป เริ่มต้นที่การแยกก้างปลา การสกัดแยกแคลเซียมคาร์บอเนตจากก้างปลาด้วยกรรมวิธีทางเคมี การแยกตะกอนแคลเซียมและการทำแห้งผงแคลเซียมคาร์บอเนต จนกระทั่งได้แคลเซียมคาร์บอเนตจากก้างปลาหมอคางดำเพื่อใช้เตรียมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลวิจัยที่สำคัญส่วนหนึ่ง พบว่า ก้างปลาหมอคางดำให้ประมาณแคลเซียมสูงถึงประมาณ 14% w/w” อ.ดร.สุริยา ชัยวงค์ อธิบายเสริม

ปัจจุบัน ทีมวิจัยอยู่ระหว่างการดำเนินการจดอนุสิทธิบัตรกรรมวิธีการสกัดแคลเซียมจากก้างปลาหมอคางดำ เพื่อเตรียมการผลิตและจำหน่าย ผลงานที่เกิดขึ้นนับเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประสิทธิภาพสูงและยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพ แต่ยังมีส่วนร่วมในการปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติอย่างยั่งยืนอีกด้วย ผู้สนใจสามารถติดตามความต่อเนื่องและความสำเร็จของโครงการวิจัยดังกล่าวได้ที่ คณะการแพทย์บูรณาการ มทร.ธัญบุรี โทร.02 592 1989.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

เปิดแล้ว !! FULL MOON@Amphawa สวยงามตระการตาด้วยการตกแต่งไฟประดับเต็มพื้นที่ อุทยาน ร.2

เปิดแล้ว !! FULL MOON@Amphawa สวยงามตระการตาด้วยกา […]

You May Like

Subscribe US Now