ร้อง กกต. ตรวจสอบการเซ็น MOU ของ แปดพรรคการเมืองในการจัดตั้ง รบ.ส่อผิด ม.28 พ.ร.ป.พรรคการเมือง อาจถึงขั้นยุบพรรค
วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พลังประชารัฐ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
เพื่อขอให้ตรวจสอบ 8 พรรคการเมือง ที่ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยอาจเข้าข่ายกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ในรัฐธรรมนูญมีการบัญญัติว่า ‘สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดหรือการครอบงำใด และที่สำคัญคือห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่น ซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคครอบงำหรือชี้นำไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม’
นายเรืองไกร ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น โดยเฉพาะข้อบังคับพรรคก้าวไกลเมื่อปี 2563 ไม่พบการกำหนดที่เกี่ยวกับการลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล อีกทั้งในเรื่องของอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าพรรคได้มีข้อกำหนดไว้ชัดเจน จึงเห็นได้ว่าพรรคการเมืองทั้ง 8 พรรคที่ได้มีการเซ็น MOU ร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล อาจขัดต่อข้อบังคับของพรรคก้าวไกล เนื่องจากไม่พบรายละเอียดการกำหนดที่เกี่ยวกับการลงนามดังกล่าว และยังอาจทำให้บุคคลอื่นเข้าใจได้ว่าแต่ละพรรคการเมืองต่างฝ่ายต่างยินยอมให้หัวหน้าพรรคการเมืองที่เป็นบุคคลอื่น ซึ่งไม่ใชสมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้ขาดความอิสระไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม จึงมีเหตุอันควรให้ กกต.ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวว่าเข้าข่ายผิดมาตรา 28 แห่ง พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง และเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 92(3) ที่ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งการยื่นร้อง กกต.ในวันนี้อาจนำไปสู่การยุบทั้ง 8 พรรค เพราะต่างฝ่ายต่างยอมรับเงื่อนไขในการเซ็น MOU เป็นการยินยอมให้ครอบงำ เพราะเอกสารที่เซ็นทั้ง 8 ชื่อ ลงนามโดยหัวหน้าพรรคทั้งหมด
#เรืองไกรลีกิจวัฒนะ #หุ้นไอทีวี #ร้องยุบพรรคก้าวไกล #กกต #คณะกรรมการการเลือกตั้ง #การเมืองเรื่องใกล้ตัว