‘บิ๊กโจ๊ก’ ลงพื้นที่ มูโนะ ตามคดีโกดังพลุดอกไม้ไฟ ระเบิด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุโกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิด บ้านมูโนะ จ.นราธิวาส เผยความคืบหน้าคดี ออกหมายจับ 2 ผัวเมีย เจ้าของโกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟแล้ว หลังหลบหนีอยู่ประเทศมาเลเซีย พร้อมตรวจสอบ จ่า ฟ.ฟัน เก็บส่วย เช็คเส้นทางการเงินและการใช้โทรศัพท์ หากพบเชื่อมโยงใครเอาผิดไม่มีละเว้น
จากกรณีโกดังพลุดอกไม้ไฟ ระเบิดครั้งใหญ่ในชุมชนมูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ล่าสุด วันนี้ (2 ส.ค. 66) เวลา 13.50 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดี โดยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีความเป็นห่วงเป็นใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้สั่งการและมอบหมายให้ตนลงพื้นที่มากำกับคดีเอง ร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนราธิวาส
ตนขอแสดงความเสียใจกับพี่น้องที่รับผลกระทบ วันนี้ตนลงมากำกับคดีเอง สิ่งสำคัญคือต้องทำอย่างเร่งด่วนเร่งรัดเอาความเป็นธรรมกลับคืนสู่ประชาชน โดยการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในวันนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งการและประสานขออนุมัติหมายจับ 2 เจ้าของโกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเข้ามอบตัว ยังคงหลบหนีอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ดังนั้นในการติดตามตัวมารับทราบข้อกล่าวหายังคงต้องดำเนินการต่อ
ส่วนในวันนี้จะมีการขยายผลต่อตั้งแต่ต้นทางยันปลายทางในเรื่องของวัตถุพลุ หรือวัตถุไวไฟเหล่านี้มันมีกฎหมายควบคุมอยู่ 5 หน่วยงานด้วยกัน กระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานทหาร กระทรวงแรงงานกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย นับรวมไปถึงองค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่น วันนี้ต้องดูในหลักเกณฑ์ทำอย่างตรงไปตรงมา ดูว่าใครเป็นผู้มีอำนาจในการอนุญาต หากอนุญาตแล้วมีการกำกับเข้ามาตรวจตราหรือไม่ หากไม่มีการกำกับตรวจตรา หรือมีการอนุญาตโดยไม่ชอบก็ต้องดำเนินคดีความผิดทั้งหมดในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ
จากการลงพื้นที่พบว่า จุดที่โกดังตั้งอยู่ในพื้นที่แหล่งชุมชน ซึ่งไม่สามารถที่จะตั้งได้ เดี๋ยวเราจะต้องดูในส่วนของการอนุญาตต่างๆ เรื่องอาคาร เรื่องการเข้ามาตรวจกำกับต่างๆ จะเป็นในเรื่องของการกระทำความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรีสั่งการกำชับดูแลเยียวยาใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่สิ่งที่สำคัญในพื้นที่พิเศษ ก็จะมีระเบียบข้อบังคับหากกรณีการตายหรือเสียชีวิตซึ่งเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐก็จะได้รับศพละ 5 แสนบาท
เบื้องต้นได้รับการรายงานว่ามีการสั่งพลุดอกไม้ไฟ มาจากต้นทางแหลมฉบัง และขนเข้ามาตามเส้นทางต่างๆ มาลงหาดใหญ่ ก่อนขนบรรทุกเข้าสู่โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ บ้านมูโนะ และพักเตรียมส่งออกไปขายยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งเมื่อวานนี้ได้มีการพูดคุยกับผู้การสืบสวนจังหวัด และจะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติม จะต้องมีการไล่ขยายผลความรับผิดชอบ ความบกพร่องว่ามันอยู่ในส่วนใด
สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหาคือดำเนินคดีในเรื่องของความประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งก็ต้องมาดูในส่วนของข้อหาว่าเข้าข่ายความผิดในฐานใดเพิ่มเติมอีก
ส่วนประเด็นที่มีการแชร์ชื่อจ่า ฟ.ฟัน ในโลกโซเชียล ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับส่วยมูโนะ โยงเกี่ยวข้องกับนายตำรวจยศระดับสูง นักการเมืองในท้องถิ่น แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ตอนนี้ผู้การได้สั่งให้ผู้กำกับ สภ.มูโนะ ไปช่วยราชการแล้วเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ในส่วนของที่มีการเอ่ยชื่อจ่า ฟ.ฟัน ก็ได้สั่งให้ไปช่วยราชการด้วยเช่นกัน ตนมองว่าเป็นมาตรการขั้นต้นที่นำตัวออกจากนอกพื้นที่ก่อนเพื่อให้คนในพื้นที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ต้องเกรงใจใคร
สำหรับแนวทางการสืบสวนถึงพฤติกรรม จ่า ฟ.ฟัน นี้ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับตัวผู้ถูกกล่าวหาด้วย หากการตรวจสอบแล้วพบการกระทำความผิดในส่วนใดก็จะดำเนินการเอาผิดทั้งหมด ส่วนนักการเมืองท้องถิ่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องในประเด็นนี้ ตนยังไม่มีข้อมูล นี้ก็จะต้องมีการตรวจสอบไล่เรียงทั้งหมด ต้องมีการสืบต่อไปว่าสองสามีภรรยาเป็นเจ้าของโกดังพรุแห่งนี้จริงหรือไม่หรือว่าเป็นเพียงแค่นอมินี ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องหรือต้องออกหมายจับใครเพิ่มหรือไม่นั้นขอเวลาตรวจสอบ หลักๆต้องดูว่ามีการขนยังไงขนโดยใคร จากแหลมฉบังมาหาดใหญ่ หาดใหญ่ก็มาที่โกดังมูโนะ และขายต่อไปยังมาเลเซีย สิ่งสำคัญก็ต้องดูต่อว่ามีการเลี่ยงภาษีอากรหรือไม่ หากเข้าความผิดฐานเลี่ยงภาษีอากรก็จะเข้าความผิดมูลฐานฐานฟอกเงินก็จะดำเนินการยึดทรัพย์ทั้งหมด
สำหรับโกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟทั้งหมดที่อยู่ตามแนวชายแดนมาเลเซียนั้น เป็นความรับผิดชอบของนายอำเภอในการออกใบอนุญาตดังนั้นวันนี้เราเห็นได้ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้มีการตรวจสอบในประเด็นนี้แล้วซึ่งตนก็จะสั่งให้ตำรวจช่วยตรวจสอบคู่ขนานไปด้วย วันนี้ต้องมีการตรวจสอบทั้งหมดทั้งประเทศ หากจะบอกว่าวัวหายจึงล้อมคอกมันคงเป็นไปไม่ได้ถึงวันนี้ต้องเอาจริงเอาจังสักที เพราะเหตุที่เกิดขึ้นมันรุนแรงเสียหายมหาศาล โดยหลังจากนี้ก็ต้องมีการไล่ตรวจสอบว่ายังมีโกดังไหนอีกบ้างที่ยังไม่ได้มีการขออนุญาตซึ่งก็มีความผิดแน่นอนอยู่แล้ว
วันนี้อย่าเพิ่งไปปักใจในเรื่องของ จ่าฟ.ฟัน ยืนยันว่าไม่ได้ปกป้องใคร เพราะระดับจ่ามันเล็กไป จะเป็นแค่ปลายทาง หากทั้ง 5 หน่วยงานทำหน้าที่ดีถึงแม้ว่าเหตุเกิดก็ไม่เป็นไรแต่หากเขาไม่ทำหน้าที่แล้วเกิดเหตุอันนี้จะมีความผิดหนักกว่า ส่วนประเด็นจากฟฟันหากพบกระทำความผิดไม่ปกป้องอย่างแน่นอน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบต่อว่าการดำเนินการของจ่าฟ. ฟัน นั้นทำตามคำสั่งการของใครหรือทำไปเพื่อใคร มีการเก็บผลประโยชน์จริงหรือไม่หากพบผิดจริงก็ต้องดำเนินคดี
ส่วนการนำตัวของทั้งสองคนผัวเมียกับมาประเทศนั้นจะต้องมีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่นั้น ก็จะมีการประชุมหารือส่วนเรื่องการนำตัวกลับมาไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเดี๋ยวตนจะต้องประสานกับผบ.ตร.มาเลเซียเพื่อนำตัวกลับประเทศไทย ส่วนประเด็นเรื่องทั้งสองผัวเมียมีสองสัญชาตินั้นก็เป็นอีกประเด็นต้องมีการตรวจสอบแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศได้ ต้นมองว่าไปไกลได้เต็มที่แค่มาเลเซียเท่านั้น และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการประสานเข้ามาเพื่อมอบตัวจากทั้งสองสามีภรรยา
ช่วงหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และเส้นทางการใช้โทรศัพท์ของ จ่า.ฟัน ว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับใครบ้าง รวมไปถึงจะมีการไล่ย้อนหลังไปดูคดีตั้งแต่ปี 2559 ที่พนักงานสอบสวนสั่งฟ้อง แต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง นั้นเป็นเพราะสาเหตุอะไรก็จะกลับไปไล่ปิดจุดอ่อนให้หมด เพื่อเวลาเราสั่งคดีจะได้รู้ว่าเหตุใดอัยการจึงสั่งไม่ฟ้องโดยจะนำสำนวนคดีของปี 59 มาดูทั้งหมด ผึ้งก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเพราะความเสียหายมากมาย ส่วนเรื่องการเยียวยาตอนนี้นายกรัฐมนตรีสั่งการแล้ว หลากหลายภาคส่วนจิตอาสาก็ลงพื้นที่แต่ในส่วนของการให้ความเป็นธรรมกับประชาชนเป็นภารกิจของตำรวจหากเราพิสูจน์ได้ว่าการกระทำความผิดเป็นของเจ้าหน้าที่รัฐวันนี้ผู้เสียชีวิตได้เพิ่มอีกศพละ 5 แสนรวมเป็น 550,000 บาท การใช้มาตรการให้ความยุติธรรมเอาผู้กระทำความผิดมาลงโทษจะถือเป็นเรื่องดีที่สุด
ประเด็นเรื่องส่วยนั้น ตนขอบอกว่าวันนี้องค์กรตำรวจเป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่จำนวน 200,000 กว่าคนทั่วประเทศ แต่ที่องค์กรเราอยู่ได้เพราะมีคนดีมากกว่าคนไม่ดี ดังนั้นจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นคดีใดๆ จำนวน 140 ล้าน ก็มีการจับกุมตัวมาหมดแล้ว จะเห็นว่าตำรวจจับตำรวจเองก็มี การเปลี่ยนแปลงมันก็จะดีขึ้นวันนี้ต้องเรียนว่าสังคมโซเชียลมีเดียจะทำให้เห็นอะไรมากขึ้นเรื่อยๆ ยืนยันไม่ใช่คดีที่เงียบหายไปตามกาลเวลาเพราะตนลงมาแล้ว การไล่เส้นทางการเงินแล้วมันโยงไปถึงคดีใดก็ต้องเอาผิดทั้งหมด หากตรวจสอบแล้วพัวพันกับนักการเมืองท้องถิ่นหรือนักการเมืองปัจจุบันก็ต้องเอาผิดทั้งหมดเพราะมันปิดกันไม่ได้ ผบ. ตรเน้นย้ำทำคดีอย่างตรงไปตรงมา
