“พิธา” กลับเข้าสภาฯ ทำงานหน้าที่ สส.อีกครั้ง หลังพ้น “คดีถือหุ้นITV” ยืนยัน “ฝ่ายค้าน” เดินหน้าช่วย “ประชาชน” เต็มที่ “บ่เสียดาย” ที่ไม่มีโอกาสในการเลือกนายกฯครั้งที่ 2
วันที่ 25 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางเข้ารัฐสภาครั้งแรก ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญในคดีการเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ สส. ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ ซึ่งศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. 2567 ท่ามกลางการต้อนจากแฟนคลับและเจ้าหน้าที่รัฐสภาอย่างคึกคัก
นายพิธา กล่าวว่า รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ได้กลับมา อย่างไรก็ตามยอมรับว่า เสียดาย 6 เดือน ที่ไม่มีโอกาสในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ซึ่งคงไม่มีใครบอกได้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร หรือถ้ามีครั้งที่ 2 แล้วดีขึ้น จะกลายเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่ แต่เราบริหารจัดการเวลาได้ ใช้เวลา 6 เดือนในการพบปะพี่น้องประชาชน ทำงานกับเพื่อน สส.ที่อยู่ข้างหลังในการลงพื้นที่ตอนถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
ส่วน จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค หรือผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่นั้น คำตอบนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ตามกระบวนการพรรคก้าวไกลจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี เดือน เม.ย. ซึ่งต้องผ่านการคัดเลือกของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หรือสมาชิกในที่ประชุม 2.ตนไม่ยึดติดกับตำแหน่ง นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ทำหน้าที่ได้ดี ทำงานแหลมคม เป็นตัวเอง ทั้งตนและนายชัยธวัช ไม่มีใครยึดติดตำแหน่ง อีกทั้ง ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องเลื่อนการประชุม เพราะกรรมการบริหารพรรคพรรคก้าวไกลทำงานครบ 4 ปีตามวาระ จะต้องแจ้งให้ชัดว่าการประชุมครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับตน แต่ต้องมีการเปลี่ยน หรือว่ามีการจัดการซึ่งเป็นเรื่องปกติ
ส่วนการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตนยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ได้ค้านทุกเรื่อง ค้านเฉพาะเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีความชอบธรรม หรือค้านเพื่อที่จะแนะนำให้มีทางเลือกอื่น เช่น การกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา ปัญหาชายแดนภาคใต้ ส่วนวาระร่วมเพื่อประชาชนไม่ว่าพรรคไหนถ้าเป็นวาระดีๆ เช่น สมรสเท่าเทียม พ.ร.บ.อากาศสะอาด สุราก้าวหน้า การทำประชามติ สามารถทำการเมืองสร้างสรรค์ เอาประชาชนมาตั้ง โดยจะใช้ข้อมูลที่ได้จากการประชุมกับผู้นำท้องถิ่น มาอภิปรายในวันที่ 26 ม.ค. นี้ เรื่องปัญหาขยะล้นเมืองและการจัดการขยะใน จ.สมุทรปราการ และ จ.ภูเก็ต ในญัติติของพรรคภูมิใจไทย เพราะฉะนั้น ไม่เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
ส่วนกรณีรัฐบาลผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ นายพิธา กล่าวว่า จะจับตาเป็นพิเศษ เพราะในช่วงที่ตนถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ได้สังเกต ว่าโครงการเรือธงของรัฐบาลมี 3 โครงการ ได้แก่ 1. ดิจิทัลวอลเล็ต 2. โครงการแลนด์บริดจ์ 3. ซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งมีหลายเรื่องที่เราเห็นตรงกัน แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่เราต้องพูดคุยกันเป็นพิเศษ จะต้องมองในมุมกว้างและลึก และดูว่าทางเลือกและเป้าหมายคืออะไร
ส่วนความเห็นในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ประชาชนมีความเดือดร้อนพอสมควร เศรษฐกิจโตช้าและซบเซาเป็นเวลานาน ซึ่งไม่ใช่ความผิดของรัฐบาลปัจจุบัน แต่เป็นปัญหาจากการเมืองไทย ที่ไม่มีการปรับโครงสร้าง และทำให้ประเทศเดินช้า และกังวลว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ด้วยการใช้งบประมาณระยะยาว จะทำให้ไม่มีพื้นที่การคลังในการแก้ปัญหาระยะยาว จึงอยากจะชวนรัฐบาลให้คิด ว่าจะมีแผนสองหรือไม่ การกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานราก “อย่าดูถูกรายละเอียดหรือโครงการเล็กๆน้อยๆ” ถ้าทำรวมกันอาจทำให้พลังเศรษฐกิจระเบิดขึ้นมาได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นโครงการแจกเงินแบบบนลงล่าง หากแก้ปัญหาให้ตรงจุด ก็จะทำให้ช่วยประหยัดงบประมาณ และไม่ต้องกู้เงินสร้างภาระเพิ่มขึ้น นายพิธา กล่าว
#รัฐสภา #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #สสบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล #ข่าวการเมือง #MissionThailand