“รมว.ธรรมนัส” ร่วมประชุม คกก.แก้ปัญหาสินค้า “ประมง-ปศุสัตว์” ตกต่ำ เร่งหาต้นตอ “สินค้าเถื่อน” ทะลัก! ก่อนนำวาระเข้าที่ประชุมหาข้อสรุป 12 ก.พ.นี้ ลั่น! ปัญหาทุกอย่างต้องจบ

“รมว.ธรรมนัส” ร่วมประชุม คกก.แก้ปัญหาสินค้า “ประมง-ปศุสัตว์” ตกต่ำ เร่งหาต้นตอ “สินค้าเถื่อน” ทะลัก! ก่อนนำวาระเข้าที่ประชุมหาข้อสรุป 12 ก.พ.นี้ ลั่น! ปัญหาทุกอย่างต้องจบ

วันที่ 8 ก.พ. 2567 ที่กรมประมง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาราคาสินค้าภาคการประมงตกต่ำ โดยมีนายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมงเป็นประธาน

โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้คณะกรรมการแก้ปัญหาราคาสินค้าภาคการประมงตกต่ำได้มีการประชุมถึงแนวทางในการหาวิธีการแก้ปัญหา เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าภาคการประมง ซึ่งมีคณะกรรมการ ประกอบด้วยภาครัฐ โดยกรมประมง ภาคเอกชน หอการค้าไทย พี่น้องสมาคมประมงแห่งประเทศไทย สมาคมแช่แข็ง และที่ปรึกษาในส่วนอื่นๆ ซึ่งวันนี้ทางอธิบดีกรมประมงเป็นประธานในการประชุม ซึ่งตนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญจึงเข้ามาเป็นผู้สังเกตการประชุมครั้งนี้

โดยสาระสำคัญในการประชุม คือเรื่องมาตรการ การเก็บค่าธรรมเนียมการนำเข้าสินค้าเพื่อการประมง ซึ่งยังหาข้อสรุปไม่ได้ โดยในช่วงบ่าย ภาคเอกชนซึ่งประกอบด้วย หอการค้าไทย สมาคมแช่แข็ง สมาคมประมงแห่งประเทศไทย จะมีการหารือถึงแนวทางให้ได้ข้อสรุป ถึงผลกระทบต่อภาคเอกชน ทั้งภาคอุตสาหกรรม หอการค้า และประมง โดยให้ทั้ง 3 ฝ่ายและส่วนที่เกี่ยวข้องไปหารือ และนัดหมายประชุม กันอีกครั้ง

ส่วนมาตรการในการพิ่มความเข้มข้นการตรวจสอบสินค้าภาคการประมงที่นำเข้าสู่ประเทศไทยทุกประเภท โดยได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มความเข้มข้นจากหลักมาตรการสากลเดิมที่มีอยู่ ในการตรวจสอบต้นทางของสินค้า ตลอดจนปลายทาง ที่ผู้นำเข้าจะนำไปจำหน่าย ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ

ทั้งนี้ ในวัน 12 ก.พ. 2567 จะมีการประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาประมงซึ่งมีตนเป็นประธาน โดยจะนำวาระการประชุมในวันนี้ เรื่องการแก้ปัญหาราคาภาคการประมงตกต่ำ เข้าสู่ที่ประชุม

ส่วนปัญหาที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้เนื่องจากตนได้ให้กรมประมง ตรวจสอบสินค้าภาคการประมง และสินค้าภาคปศุสัตว์ ที่มีการลักลอบเข้ามาสู่ราชอาณาจักรอย่างไม่ถูกต้อง โดยขณะนี้ได้ตรวจสอบอย่างเข้มข้น ซึ่งคาดว่าภายในเดือน ก.พ.นี้ จะทราบว่ามีสินค้าอะไรบ้างที่ส่งผลกระทบต่อภาคการประมงและภาคปศุสัตว์ ซึ่งเอกสารที่ได้จากการตรวจสอบ ขณะนี้ได้ส่งให้กองปราบปราม โดยสั่งการให้ชุดเฉพาะกิจพยานาคราช เดินทางไปร้องเรียนว่ามีเอกสารที่สำแดงโดยมิชอบ ที่ผิดสังเกต โดยมีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท รวมแล้วกว่า 20 คดี ทั้งของกรมประมงและกรมปศุสัตว์

ด้านตัวแทนหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาพรวมสินค้าประมงจากสมาคมต่างๆส่งออกปีละ 4 แสนล้านบาท ขณะที่ในประเทศไทยอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท ทั้งนี้หอการค้าไทยสนับสนุนนโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการควบคุมตามกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากมีอะไรที่สามารถช่วยเหลือชาวประมงได้ ทางหอการค้ายินดีให้ความร่วมมือ พร้อมรับปากในการรับซื้อสินค้าภาคการประมงใน ราคาที่เหมาะสมให้ชาวประมงอยู่ได้ โดยคาดการณ์ในปี 2567 ราคาสินค้าประมงจะสามารถเพิ่มขึ้นได้ราว 5% ทั้งในแง่ปริมาณและมูลค่า

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้ถือเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมง ซึ่งเมื่อวานนี้ (7 ก.พ.2567) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการพูดถึงประเด็น พ.ร.บ.จากพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกัน และถือว่าเรื่องของประมงเป็นวาระแห่งชาติ โดยย้ำว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และภาคเอกชน ทั้งหอการค้า, สมาคมแช่แข็ง และสมาคมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยกำลังเร่งหาข้อสรุปและมาตรการ เพื่อไม่ให้สินค้าภาคการประมงตกต่ำอย่างในปัจจุบันนี้ “โดยทุกเรื่องจะต้องจบในวันที่ 12 ก.พ. นี้ จากการประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาประมงที่มีตนเป็นประธาน”

ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงได้มีตัวแทนจากพี่น้องชาวประมงทั้ง 22 จังหวัดทั่วประเทศ นำช่อดอกไม้มามอบให้ ร.อ.ธรรมนัส โดยกล่าวขอบคุณที่ช่วยแก้ปัญหาให้ชาวประมงอย่างเร่งด่วน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

"ธรรมนัส" เรียก "อธิบดีกรมการข้าว" เข้าพบหลังถูก "ชายนิรนาม-โดรนปริศนา" บินรอบบ้าน หวั่น! ไม่ปลอดภัย

“ธรรมนัส” เรียก “อธิบดีกรมการข้า […]

You May Like

Subscribe US Now