“อธิบดีกรมปศุสัตว์” เข้าพบ” เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย” หารือความคืบหน้เปิดตลาดโคมีชีวิตและผลิตภัณฑ์ของ “ไทย” ไป “จีน” ภายใต้แนวทางการ “Regionalization” หวังสร้างรายได้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคไทย

“อธิบดีกรมปศุสัตว์” เข้าพบ” เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย” หารือความคืบหน้เปิดตลาดโคมีชีวิตและผลิตภัณฑ์ของ “ไทย” ไป “จีน” ภายใต้แนวทางการ “Regionalization” หวังสร้างรายได้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคไทย

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์และคณะ เข้าพบหารือกับนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ณ สถานทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อขอคำปรึกษาและหารือความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการขอเปิดตลาดการส่งออกโคมีชีวิตและผลิตภัณฑ์จากไทยไปจีน ภายใต้แนวทางการจัดทำพื้นที่ปลอดโรค (Regionalization) ซึ่งเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย ได้แจ้งให้ทราบว่าหน่วยงาน GACC ปักกิ่ง ได้รับเอกสารเกี่ยวกับการจัดทำพื้นที่ปลอดโรคที่กรมปศุสัตว์จัดส่งไปแล้ว และอยู่ในระหว่างที่ผู้เชี่ยวชาญของจีนทำการพิจารณาเอกสารดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ในการพิจารณา พร้อมยืนยันว่า จะติดตามประเด็นความร่วมมือนี้อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ได้แจ้งเอกอัครราชทูตจีนว่า เร็วๆนี้ จะนำคณะไปเยือนมณฑลยูนนานเพื่อสำรวจเส้นทางส่งออกและธุรกิจการค้าโคมีชีวิต รวมถึงเยี่ยมคารวะและหารือรายละเอียดมาตรการการนำเข้าโคมีชีวิตกับสำนักงานศุลกากรคุนหมิง สำนักงานเกษตรยูนนาน และสำนักงานพาณิชย์ยูนนาน โดยเอกอัครราชทูตจีนเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุน เนื่องจากจะแสดงให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนตระหนักถึงความตั้งใจในการขับเคลื่อนการค้าโคมีชีวิตไทย-จีนของกรมปศุสัตว์และรัฐบาลไทย 

สำหรับการขับเคลื่อนการผลักดันการส่งออกโคมีชีวิตและผลิตภัณฑ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์รับสนองนโยบายของรัฐบาลซึ่งจัดทำแผนยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคระบาดและนโยบายในการเตรียมตัวส่งออกโค มีชีวิต ผ่านการรับรองคุณภาพ “ปลอดโรคปลอดภัย” เพื่อสร้างหลักประกันและความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า ว่า สินค้าปศุสัตว์ไทยปราศจากโรค พร้อมกันนี้เร่งเดินหน้าเปิดตลาดใหม่ๆ เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศในตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อให้ผู้เลี้ยงโคสามารถเติบโตในอาชีพได้อย่างยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ ในปี 2566 มูลค่าการส่งออกสินค้าปศุสัตว์และอาหารสัตว์เลี้ยงไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน มีมูลค่าประมาณ 19,224 ล้านบาท โดย เป็นสินค้ากลุ่มเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็ง ประมาณ 16,917 ล้านบาท สินค้าอื่นๆ เช่น กลุ่มนมและผลิตภัณฑ์ น้ำผึ้ง และรังนกรวม 1,015 ล้านบาท ส่วนกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง 1,292 ล้านบาท

 

#สมชวนรัตนมังคลานนท์ #อธิบดีกรมปศุสัตว์ #กรมปศุสัตว์ #กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ #หานจื้อเฉียง #เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย #สถานทูตจีนประจำประเทศไทย #ตลาดการส่งออกโคมีชีวิต #พื้นที่ปลอดโรคท #Regionalization #ข่าวเกษตร #MissionThailand

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

"พรเพชร" หนุน "สร้างระบบนิติบัญญัติให้สุจริต โปร่งใส และยกระดับการตรวจสอบจริยธรรมของสมาชิกรัฐสภาและบุคคลในวงงานรัฐสภาด้วยพลังพลเมือง"

“พรเพชร” หนุน “สร้างระบบนิติบัญญ […]

You May Like

Subscribe US Now