นายกฯ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม “Aviation Hub” ส่งเสริมการเดินทาง – ท่องเที่ยวสองประเทศ เชื่อ! หลังขยายสิทธิการบิน “ไทย-อินเดีย” เพิ่ม 7,000 ที่นั่ง/สัปดาห์ คาด! เริ่ม พ.ย. นี้  

นายกฯ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม “Aviation Hub” ส่งเสริมการเดินทาง – ท่องเที่ยวสองประเทศ เชื่อ! หลังขยายสิทธิการบิน “ไทย-อินเดีย” เพิ่ม 7,000 ที่นั่ง/สัปดาห์ คาด! เริ่ม พ.ย. นี้  

วันที่ 17 มิ.ย. 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขับเคลื่อนการดำเนินนโยบาย Aviation Hub ส่งเสริมการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญ อำนวยความสะดวก พัฒนาอุตสาหกรรมการบินของไทยสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้หารือร่วมกับ คณะผู้แทนจากกระทรวงการบินพลเรือนอินเดีย และสายการบินของอินเดีย ประเด็นการขยายสิทธิการบินไทย-อินเดีย ผลการเจรจา ทั้งสองฝ่ายจะได้รับสิทธิทำการบินโดยมีจำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น และจะขยายสิทธิความจุและความถี่เพิ่มขึ้นอีก ตามเงื่อนไขว่าสายการบินฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องทำการบินถึง 80% ของสิทธิที่ได้รับ พร้อมขยายการทำการบินไปยังเมืองสำคัญเพิ่มขึ้นอีกฝั่งละ 7,000 ที่นั่งต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 2,000 คนต่อวัน ไปยัง 6 เมือง ได้แก่ มุมไบ เดลี เจนไน กัลกัตตา บังคาลอร์ และไฮเดอราบาด ซึ่งหน่วยงานได้ประสานงาน สายการบินของไทยเพื่อจัดสรรจำนวนที่นั่งให้เหมาะสมตามที่ได้รับมาให้สามารถทำการบินได้ในเดือนพฤศจิกายน 2567 และให้สายการบินของไทยดำเนินการด้านการขออนุญาตทำการบินเข้า และการขอเวลาการทำการบินตามเส้นทางที่ได้รับการจัดสรรจากหน่วยงานฝั่งอินเดีย ผลการเจรจาครั้งนี้จะทำให้สายการบินของไทยและอินเดียสามารถทำการบินระหว่างกันได้มากขึ้น อีกทั้งจะช่วยส่งเสริมการเดินทางไปยังเมืองหลักและเมืองรอง เพิ่มปริมาณการเดินทางให้สอดรับกับการขยายมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง ส่งเสริมการเดินทางและการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ 

นอกจากนี้ ผลจากการดำเนินมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Free) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียของไทย ช่วงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 – 10 พฤษภาคม 2567 และได้มีการขยายเวลามาตรการดังกล่าวออกไปจนถึง 11 พฤศจิกายน 2567 ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวอินเดียจำนวนมากเดินทางมาไทย โดยตลอดทั้งปี 2566 พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียมาเยือนไทยเป็นจำนวนมากกว่า 1.62 ล้านคน โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 1 มกราคม – 9 มิถุนายน 2567 พบว่าไทยมีนักท่องเที่ยวอินเดียมาเยือนเป็นจำนวน 903,248 คน ซึ่งมีความเชื่อมั่นว่าข้อตกลงในการจัดสรรสิทธิการบินดังกล่าว จะสามารถรองรับการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวอินเดียได้อย่างมีนัยสำคัญ 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้ไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว และที่ผ่านมานักท่องเที่ยวอินเดียเป็นอีกกลุ่มที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวไทย จึงเชื่อมั่นว่าการเพิ่มจำนวนที่นั่งเที่ยวบินในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างไทยและอินเดียซึ่งเป็นประเทศที่มีความสำคัญในภูมิภาคเอเชียใต้ และเป็นโอกาสขยายความร่วมมือไปยังมิติอื่นที่ยังมีโอกาสของการเจริญเติบโต อาทิ ความร่วมมือภาคประชาชน อุตสาหกรรมภาพยนตร์ เทคโนโลยี ขับเคลื่อนกลไกความร่วมมือเพื่อต่อยอดสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์จริงต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

"รมว.ธรรมนัส" เปิดโครงการ "พัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน" เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2567 สืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธาน สร้างความมั่นคงและประโยชน์สุขแก่ประชาชนอย่างยั่งยืน

“รมว.ธรรมนัส” เปิดโครงการ “พัฒนา […]

You May Like

Subscribe US Now