ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดตัวรถ DPU EV ShuttleCar ให้บริการนักศึกษา DPU ในการเดินทาง
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดตัวบริการรถไฟฟ้า DPU EV Shuttle Car เพื่อให้บริการฟรีเป็นสวัสดิการในการเดินทางให้แก่นักศึกษาอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ รอบมหาวิทยาลัย อาทิ สถานีรถไฟฟ้าหลักสี่ จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายชมพู – สายสีแดง และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน ซึ่งเป็นการส่งเสริมการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาด ลดมลพิษและช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดย ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดี, ดร.ปรีเปรม นนทลีรักษ์ รองอธิการบดีอาวุโส สายงานการเงินและบริหาร, อาจารย์พิไลพรรณ นวานุช รองอธิการบดีสายงานทรัพยากรบุคคล และ ผศ. ดร.ทัณฑกานต์ ดวงรัตน์ รองอธิการบดีสายงานกิจการนักศึกษา พร้อมด้วยคณาจารย์และนักศึกษา ได้กดแตรเปิดการเดินรถเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ลานหน้าอาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
สำหรับรถไฟฟ้า EV ที่นำมาให้บริการทั้ง 5 คันนั้น เป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่มีขนาดที่กะทัดรัดเหมาะสม ทำให้การเคลื่อนที่ปลอดภัยและคล่องตัว สามารถชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ขนาดเล็ก ทำให้พร้อมใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ยิ่งไปกว่านั้น รถ EV เหล่านี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่ปล่อยมลพิษทางอากาศ หรือเสียงรบกวน ในมหาวิทยาลัย สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และสร้างสภาพแวดล้อมที่เน้นความยั่งยืน ซึ่งการมีรถไฟฟ้า EV ให้บริการฟรี ไม่เพียงแต่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักศึกษาเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมการใช้รถสาธารณะ เพื่อลดปัญหาการจราจรเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมที่ยั่งยืนอีกด้วย
อาจารย์สุทธิวรรธน์ บุรุษพัฒน์ ผู้ช่วยอธิการบดี DPU ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการ DPU EV Shuttle Car กล่าวว่า การให้บริการรถไฟฟ้า EV มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษา DPU เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเวลารอรถโดยสารสาธารณะ อีกทั้งรถมีขนาดคล่องตัวสามารถใช้เส้นทางลัด เลี่ยงการจราจรติดขัดได้ นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานสะอาด และลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ให้ความสำคัญ
อาจารย์สุทธิวรรธน์ ผู้ช่วยอธิการบดี ยังระบุอีกว่า การเปิดให้บริการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในครั้งนี้ ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ มหาวิทยาลัยมีแผนขยายบริการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักศึกษาอย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยหากมีการใช้บริการมากขึ้นมหาวิทยาลัยก็จะเพิ่มจำนวนรถเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
สำหรับตารางเวลาในการเดินรถเริ่มต้นตั้งแต่ 07:30 น. ถึง 17:00 น. โดยให้บริการบน 3 เส้นทางหลัก ได้แก่
1.เส้นทางสถานีรถไฟฟ้าหลักสี่ (จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีชมพู) “เที่ยวขาไป”จะรับผู้โดยสารที่หน้าอาคารอธิการบดี (อาคาร 1) และไปส่งที่หน้าสถานีรถไฟฟ้าหลักสี่ ส่วน“เที่ยวขากลับ” จะรับผู้โดยสารที่หน้าสถานีรถไฟฟ้าหลักสี่ เพื่อเดินทางกลับมายังมหาวิทยาลัย โดยมีจุดจอดรับระหว่างทางที่หน้าสถานีตำรวจทุ่งสองห้อง
2.เส้นทางศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์งามวงศ์วาน “เที่ยวขาไป” จะรับผู้โดยสารที่หน้าอาคารอธิการบดี และไปส่งที่ฝั่งตรงข้ามศูนย์การค้าเดอะมอลล์ฯ “เที่ยวกลับ” จะรับผู้โดยสารที่ฝั่งตรงข้ามศูนย์การค้าเดอะมอลล์ฯ (บริเวณหน้าร้านวิคตอรี่ เบเกอรี่) เพื่อเดินทางกลับมายังมหาวิทยาลัย
3.เส้นทางข้ามไปฝั่งวิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน (CADT) และ ซอยประชาชื่น-นนทบุรี 8 “เที่ยวขาไป” จะรับผู้โดยสารที่ถนนซอย 2 ข้างศาลาธรรมธัช และส่งที่หน้าวิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน ขณะที่ “เที่ยวขากลับ” จะรับผู้โดยสารหน้าวิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน เพื่อเดินทางกลับมายังมหาวิทยาลัย โดยสามารถขึ้น-ลงได้ตลอดเส้นทางที่รถวิ่งผ่าน
นายจักร์กิจ แซ่ตั้ง หรือ กัปตัน นายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เผยความรู้สึกในฐานะตัวแทนนักศึกษาว่า การเปิดให้บริการรถไฟฟ้า EV ถือเป็นสวัสดิการที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักศึกษา และแสดงถึงการเข้าใจต่อพฤติกรรมการเดินทางของนักศึกษาที่ต้องการความสะดวกสบาย และ รวดเร็ว ทำให้นักศึกษาไม่ต้องกังวลกับการเดินทาง และ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปกลับมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นการไปเรียน ไปทำกิจกรรม กลับบ้านและกลับหอพัก หรือแม้แต่ไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า นักศึกษาสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างคล่องตัว และ ยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้มีเวลาในการทำกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น
นายจักร์กิจ ยังบอกอีกว่า “รถไฟฟ้า EV ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ไม่เพียงแต่จากนักศึกษาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยและผู้ที่พบเห็น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าโครงการนี้สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับมหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันที่ใส่ใจผู้คน รวมถึงสิ่งแวดล้อม ส่วนตัวผมรู้สึกดีใจมากที่ทางมหาวิทยาลัยเล็งเห็นถึงความสำคัญของเรื่องรถสวัสดิการของนักศึกษา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อเดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้า หรือไปศูนย์การค้า”
“เรื่องแนวคิดพลังงานสะอาดทางมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ของเราได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้มาตั้งแต่ในช่วงต้นๆ ที่เริ่มเป็นกระแสโดยทางมหาวิทยาลัยมีรายวิชาด้าน SDGs และ แนวคิดพลังงานสะอาดให้กับนักศึกษาตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ได้เรียน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะน้องๆ นักศึกษาสามารถนำเอาเคสตัวอย่างต่าง ๆ ไปต่อยอดพัฒนาใช้ได้ ผมในฐานะตัวแทนนักศึกษาและผู้นำกิจกรรมกลางของมหาวิทยาลัย ต้อง ขอขอบคุณทางมหาวิทยาลัยเป็นอย่างยิ่งสำหรับสวัสดิการที่ดีเช่นนี้ และหวังว่าจะมีโครงการดีๆ แบบนี้ออกมาอีกในอนาคต” นายกสโมสรนักศึกษา กล่าวทิ้งท้าย