“ร.อ.ธรรมนัส” ถือฤกษ์ดีประกาศนำ 20 สส. เข้าสังกัด “พรรคกล้าธรรม” ยืนยัน ไม่มีเรื่องเพิ่มอำนาจต่อรอง ตำแหน่งรัฐมนตรี ย้ำมุ่งเดินหน้าทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ให้หลุดพ้นปัญหาเดือดร้อน

“ร.อ.ธรรมนัส” ถือฤกษ์ดีประกาศนำ 20 สส. เข้าสังกัด “พรรคกล้าธรรม” ยืนยัน ไม่มีเรื่องเพิ่มอำนาจต่อรอง ตำแหน่งรัฐมนตรี ย้ำมุ่งเดินหน้าทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ให้หลุดพ้นปัญหาเดือดร้อน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 ธ.ค. ที่อาคารรัฐสภา พรรคกล้าธรรม นำโดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และ สส.จำนวน 20 คนที่ถูกพรรคพลังประชารัฐ ขับออก ร่วมแถลงเข้าพรรคกล้าธรรม อย่างเป็นทางการ

โดย ร.อ.ธรรมนัส แถลงว่า วันนี้ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดี ซึ่งตามที่เป็นข่าวมาโดยตลอดถึงกลุ่มของพวกเราที่เคยสังกัดอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ เรื่องนี้มีพี่น้องสื่อมวลชนหลายสำนักที่พยายามจะติดต่อตน ตนขอกราบอภัยที่ไม่ได้รับสาย ไม่อยากให้ข่าวที่ไม่พร้อมกัน อยากจะแถลงข่าวให้ได้รับทราบพร้อมกัน พวกเราเองจึงตั้งกลุ่มว่า “มาตามนัด” ในนามของ ส.ส. 20 คน และถือฤกษ์ดีวันนี้ที่จะแถลงให้ทราบ

“ตั้งแต่การรวมตัวกันตั้งรัฐบาล ได้นายกรัฐมนตรีท่านใหม่บริหารบ้านเมือง พวกเราประกาศชัดเจนว่าจะสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ในเรื่องของฝ่ายกฎหมาย การเข้าเป็นสมาชิกพรรคใหม่ สังกัดใหม่ยังไม่สามารถทำได้จนกระทั่งมีมติชัดเจนให้ขับผมออกจากพรรคพลังประชารัฐ กระบวนการทางกฎหมายเป็นที่ยุติว่า คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ พร้อม สส. มีมติชัดเจน 3 ใน 4 ขับพวกผมออกจากพรรคพลังประชารัฐ และเมื่อวานช่วงบ่าย ทั้ง 20 คน พร้อมกันสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรม” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ขั้นตอนต่อไปในขณะนี้เรามีสมาชิก 24 ชีวิตทั้งที่ย้ายมาเก่าและใหม่ในพรรคกล้าธรรม พร้อมย้ำว่าเรายังมีอีกหลายชีวิต แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องนำเสนอหรือชี้แจงตอนนี้ ดังนั้น วันนี้อยากจะฝากว่าเราทั้ง 24 ชีวิตที่ยืนอยู่บนเวที ณ เวลานี้ เราคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคกล้าธรรม

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส หันไปกล่าวอย่างอารมณ์ดีกับนางนฤมล ว่า “ไม่ทราบว่าท่านหัวหน้าจะยินดีรับผมไหมครับ”

ด้านนางนฤมล กล่าวว่า พวกเราเป็นกลุ่มการเมืองที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่เริ่มต้นมีอุดมการณ์เดียวกัน ทางพรรคได้รับมอบหมาย ให้ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราก็จะเดินหน้าทำงานเพื่อสนองนโยบายของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะใช้การตลาด นำนวัตกรรม เสริมเพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกร ทุกจังหวัด ทุกเขตไม่ใช่เฉพาะแค่เขตที่เรามี สส. เมื่อถามว่า กรณีมีจำนวน สส.มากขึ้นตามจำนวนนี้ ถือว่ามีอำนาจต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องการต่อรอง ตนว่าไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สาระสำคัญคือเราจะทำงานให้รัฐบาล ซึ่ง ณ เวลานี้มีพรรคร่วมรัฐบาลที่จะทำหน้าที่แต่ละกระทรวงเพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างไร เพื่อให้ประชาชนหลุดพ้นจากปัญหาเดือดร้อนต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกเราทั้ง 24 คน หลายคนเป็น สส. เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ในแต่ละพื้นที่ เราก็นำเสนอผ่านสภาฯ บางเรื่องเราก็ประสานไปยังกระทรวงต่างๆ ได้

เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองใหม่ มีอะไรที่แตกต่างไปจากพรรคการเมืองเดิมๆ บ้าง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อยากฝากว่า พรรคกล้าธรรม ไม่ใช่เพิ่งเกิด เรามาจากพรรคเศรษฐกิจไทย และสมาชิกของพวกเราส่วนใหญ่ หลายคนเป็น สส.สมัยที่ 2 แล้ว และเราจะไม่ทำอะไรแบบเก่าๆ ภายใต้การนำของ นางนฤมล ซึ่งตนจะเป็นที่ปรึกษาให้นางนฤมล รวมทั้งจะมีการปรับโครงสร้างใหม่หมด เราจะนำพาในสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนฐานรากที่เป็นส่วนสำคัญ

เมื่อถามว่า การออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ มีดีลอะไรกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐถึงได้ยอมขับออกจากพรรค ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คำถามนี้ตนเชื่อว่ามีพี่น้องสื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจ ตั้งแต่ออกมาแถลงข่าวที่กระทรวงเกษตรฯ และจนถึงวันนี้ ตนก็ยังไม่ได้คุยกับใครเลย รับรองว่าไม่ได้มีการดีลอะไรทั้งนั้น

เมื่อถามย้ำว่า ต้องใช้คำว่าจบกันด้วยดีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ผมยืนยันตลอดเวลา ถ้าสื่อมวลชนจำคำพูดของผมได้ ว่า ผมจะออกมาโดยสันติ โดยไม่ทะเลาะกับใคร และจะทำงานที่สร้างสรรค์มากกว่าทำลายซึ่งกันและกัน เราจะทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ทำการเมืองแบบเก่าๆ”

เมื่อถามว่าหลายคนเชื่อมโยงไปถึงคดีที่อยู่ใน สปก.ว่าอาจจะเกี่ยวกับดีลนี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่เกี่ยว และขอเรียนว่าถ้าจำประเด็นนี้ได้ สมัยที่ตนเป็น รมว.เกษตรฯ นั้นทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้เปิดประเด็นก่อน เราในฐานะที่ดูแล สปก.จำเป็นต้องตรวจสอบ ตนรู้ข้อมูลการตรวจสอบว่าการเข้าครอบครองที่ดินของกลุ่มทุนไม่ถูกต้องจำเป็นต้องยึดคืนมา เพื่อเอาไปจัดสรรให้พี่น้องเกษตรกร นี่ถือเป็นเรื่องสำคัญและขั้นตอนการตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน ไม่ใช่หน้าที่กระทรวงเกษตรฯ แต่เป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งเป็นคณะกรรมการร่วม มีทั้งเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ, และจากสำนักงานอัยการสูงสุด, ป.ป.ท., ป.ป.ช., ปปง.ดังกล่าวผสมผสานกันหลายหน่วยงาน

เมื่อถามว่า หากมีการปรับ ครม. ร.อ.ธรรมนัส จะมีโอกาสเอาตำแหน่งรมว.เกษตร กลับมาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนว่าตนเลยจุดนั้นมาแล้ว และไม่เกิดความอยากที่จะเป็นอะไร ณ เวลานี้เราส่งตัวแทนเป็นรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นนางนฤมล นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ และนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ ต่างก็ทำงานในกระทรวงเกษตรฯ ตอบโจทย์ และเมื่อวาน (18 ธ.ค.) เราเพิ่งลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชเพื่อไปดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมขอยืนยันว่า พวกเราทั้ง 24 ชีวิต ของการเป็นสส.เราจะทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติให้ดีที่สุด

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Like

Subscribe US Now