ย้อนอดีตชุมชนเก่าอันมีความหลากหลายวัฒนธรรม ที่ “กุฏีจีน” ความงดงามที่ไม่เคยเลือนหายไปจากใจ

………🤪🤪ชุมชนกุฎีจีน หรือ “กะดีจีน” เป็นอีกหนึ่งชุมชนเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงก่อตั้งกรุงธนบุรี แม้จะเป็นเวลากว่า 200 ปีแล้วที่ชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกสได้ตั้งรกรากกันมา แต่เรื่องราวความเป็นมาของชุมชนได้ถูกส่งต่อผ่านลูกหลานรุ่นแล้วรุ่นเล่า ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งในแง่ของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ระหว่างชาวพุทธ ชาวคริสต์ และชาวอิสลาม รวมไปถึงวัฒนธรรมที่หลากหลายของชาวไทย และพ่อค้าชาวจีนที่อยู่ในละแวกเดียวกันและด้วยความหลากหลายนี่เองที่ถือว่าเป็นเสน่ห์ของชุมชนกุฎีจีนที่ชวนให้ทุกคนมาสัมผัส

😊😊มาประเดิมกันที่แรก “โบสถ์ซางตาครูส (วัดกุฎีจีน)” ซึ่ง ซางตาครูส เป็นภาษาโปรตุเกส แปลว่า กางเขนศักดิ์สิทธิ์ โบสถ์ซางตาครูสเป็นโบสถ์คาธอลิกเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2313 โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้พระราชทานที่ดินเพื่อสร้างวัดแห่งนี้แก่ชาวโปรตุเกส แต่เดิมเป็นไม้สักทั้งหลังแต่ถูกไฟไหม้จึงได้รับการบูรณะใหม่โดยมีโครงสร้างเป็นปูน สถาปัตยกรรมเด่นของเป็นแบบเรอเนสซองส์ผสมนีโอคลาสสิก ส่วนยอดโดมสีแดงนั้นมีความเด่นเป็นสง่า มีรูปร่างคล้ายคลึงกับโดมของมหาวิหารฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี

😄😄บริเวณ “ชุมชนกุฎีจีน” จะมีตรอกซอกซอยมากมายให้ได้เดินสำรวจ พร้อมลวดลายภาพวาดกราฟฟิตี้บนผนังที่มีให้เห็นอยู่ตลอดทาง นอกจากนี้ระหว่างทางเราจะได้เห็นบ้านไม้เก่าสุดคลาสสิกอีกด้วย ถัดมาคือ “พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน” ที่เปิดให้เข้าชมฟรี ชั้นล่างเปิดเป็นคาเฟ่เล็กๆ ให้ได้นั่งพักผ่อนกัน ส่วนด้านบนจัดแสดงและบอกเล่าที่มาของชาวคาทอลิค ที่มีเชื้อสายโปรตุเกส ชาวญวน ชาวจีน หรือแม้แต่ฝรั่งชาติอื่นๆ ที่เข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเฉพาะบุคคลในประวัติศาสตร์ชื่อดังอย่างหมอบรัดเลย์ จากอเมริกาก็เคยอาศัยอยู่ที่ชุมชนนี้ด้วย แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมผ่านข้าวของเครื่องใช้จริงที่มีอยู่ในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี ใครอยากเห็นวิวกุฎีจีนและแม่น้ำเจ้าพระยาแนะนำให้ปีนขึ้นบนชั้นลอยเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศกันให้เต็มที่ได้เลย

🤪🤪“ศาลเจ้าเกียนอันเกง” ศาลเจ้าเกียนอันเกง เป็นศาลเจ้าจีนฮกเกี้ยนของชุมชนกุฎีจีนที่สร้างถวายเจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในฝั่งธนบุรี ที่แม้จะมีความเก่าแก่ร่วมร้อยปี แต่ยังคงความสวยงามด้วยงานไม้แกะสลักที่แสนปราณีตและละเอียด รวมถึงภาพวาดที่ยังสมบูรณ์อยู่อีกด้วย

😋จากนั้นมาไหว้พระขอพรกันที่ “วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร” เป็นพระอารามหลวง โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ สร้างถวายรัชกาลที่ 3 ภายในวัดมี “พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือที่คนจีนเรียกกันติดปากว่า “ซำปอกง” ซึ่งจำลองมาจากวัดพนัญเชิง อยุธยา ภายในพระอุโบสถยังมีพระประธานที่เป็นพระพุทธรูปหล่อปางป่าเลไลยก์ ซึ่งถือได้ว่าแปลกไปจากพระประธานทั่วไปที่มันเป็นปางสมาธิหรือปางมารวิชัย
😄นอกจากศาลเจ้าและวัดแล้ว อีกหนึ่งศาสนสถานที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอิสลามในชุ มชนกุฎีจีนก็คือ “มัสยิดบางหลวง” หรือ “กุฎีขาว” ที่มีจุดเด่นคือการออกแบบเป็นทรงไทยที่หาไม่ได้จากมัสยิดที่อื่นๆ
🙂ปิดทริปก่อนกลับด้วยการแวะชิม “ขนมฝรั่งกุฎีจีน”ที่หากพลาดไปก็คงจะเรียกว่ามาไม่ถึง ขนมฝรั่งกุฎีจีนเป็นขนมลูกผสมระหว่างจีนกับฝรั่ง รสชาติคล้ายขนมไข่ ตัวขนมนั้นเป็นตำรับขนมโปตุเกส มีส่วนผสมของแป้งสาลี ไข่เป็ด และน้ำตาล ที่ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปอบในเตาถ่าน ส่วนหน้าของขนมมีลูกเกด ลูกพลับ ฟักเชื่อม และน้ำตาลทราย สไตล์จีน โดยในบริเวณชุมชนมีบ้านที่ยังทำขนมอยู่ 3 บ้าน ได้แก่ ร้านหลานแม่เป้า ร้านธนูสิงห์ และร้านป้าอำพัน

😄😄ชุมชุนกุฎีจีน นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ที่มีความเข้มแข็ง และด้วยความมีมิตรไมตรีของชาวบ้านชาวชุมชน ยิ่งทำให้ชุมชนแห่งนี้มีเสน่ห์ และน่ารัก ใครที่ได้มาเที่ยวที่ชุมชนแห่งนี้ รับรองว่าต้องกลับมาเยือนอยู่ร่ำไป…คร้าบ…

………………………………………………………

By: ปิโยรส อุทุมเทวา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

ไทยเวียตเจ็ทจัดให้ “SkyFUNNER Lucky Draw ไม่ต้องบินก็ได้ลุ้น!”

เพื่อเป็นการขอบคุณ และมอบความสุขให้ผู้โดยสารช่วงต้ […]

You May Like

Subscribe US Now