“ธรรมนัส” ตั้งทีม “ฉก.พญานาคราช” ปราบหมูเถื่อน สั่ง set zero ห้องเย็นทั้งหมด ขีดเส้นขึ้นทะเบียนภายใน 15 ธ.ค.นี้ หากเพิกเฉยจะมีโทษผิดตามกฎหมายทันที ปัดตอบอดีตรัฐมนตรี “ป” เอี่ยวหมูเถื่อน
วันที่ 24 พ.ย. 2566 เวลา 10.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง พล.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ผู้แทนกระทรวงการคลัง ร่วมแถลงผลปฏิบัติการเข้าตรวจสอบห้องเย็นและบังคับใช้กฎหมายด้านปศุสัตว์ 77 จังหวัด ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งปฏิบัติการระหว่างวันที่ 10 ต.ค. – 22 พ.ย. 2566
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์และกรมประมง ได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบห้องเย็นทั่วประเทศ แบ่งเป็นการตรวจสอบห้องเย็นด้านปศุสัตว์ 2,210 แห่ง และห้องเย็นด้านประมง 2,062 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ห้องเย็นที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมแรงงานอุตสาหกรรม และกรมการค้าภายใน รวมถึงห้องเย็นที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานใดเลยอีกประมาณ 1,100 แห่ง ซึ่งเป็นห้องเย็นขนาดเล็ก ภายหลังการตรวจสอบได้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 พระราชบัญญัติ คือ พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 พบการกระทำความผิด โดยได้อายัดซากสัตว์และดำเนินคดี รวมทั้งสิ้น 2,568,322 กิโลกรัม 92 คดี รวมมูลค่าประมาณ 287.72 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) ซากโค-กระบือ 411,336 กิโลกรัม 2) ซากสุกร 689,649 กิโลกรัม และ 3) ซากสัตว์ปีก 1,467,337 กิโลกรัม
นอกจากนี้ ยังพบการกระทำความผิดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ 2558 ไม่มีใบอนุญาตนำเข้า-ส่งออก นำผ่านราชอาณาจักรมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ มีโทษตามมาตรา 68 จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ได้อายัดซากสัตว์และดำเนินคดี โดยอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบเอกสาร จำนวนห้องเย็น 14 แห่ง แบ่งเป็น 1) ซากโค-กระบือ 380,841 กิโลกรัม 2) ซากสุกร 338,361 กิโลกรัม และ 3) สัตว์ปีก 410,236 กิโลกรัม รวมทั้งสิ้น 1,129,438 กิโลกรัม ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรฯ ได้ตั้ง “ทีม ฉก.พญานาคราช” เป็นทีมเฉพาะกิจชุดปฏิบัติการพิเศษที่ร่วมสนับสนุนภารกิจของสารวัตรปศุสัตว์ และสารวัตรประมงเพิ่มเติม เพื่อให้ดำเนินการปราบปรามขบวนการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ด้าน อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า กรมศุลกากรได้ส่งของกลางหมู่เถื่อน 160 ตู้ ให้ DSI พิจารณาเป็นคดีพิเศษ ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีการเร่งรัดการดำเนินการ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยบูรณาการทั้งหมด ผลการดำเนินการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐาน ที่น่าเชื่อว่ากลุ่มขบวนการเป็นองค์กรอาชญากรรม ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงทางอาหารและอาชีพของเกษตรกร ซึ่งในองค์กรอาชญากรรมนี้ ประกอบไปด้วย “กลุ่มนายทุน กลุ่มข้าราชการ กลุ่มข้าราชการฝ่ายการเมือง” ซึ่งในข้อเท็จจริงของการดำเนินคดี จะมีการเอาผิดกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกี่ยวข้องกับบุคคลใด หรือระดับใด หรือเป็นผู้มากอิทธิพลในพื้นที่ต่างๆ
นอกจากนี้ ในเรื่องของการดำเนินการในคดีที่ยังค้างอยู่ ได้มีการดำเนินการควบคู่ไปกับการดำเนินการของฝ่าย ปปง. ทำการยึดทรัพย์คู่ขนานไป โดยขณะนี้มีผู้ต้องหามอบตัวอีก 1 ราย พร้อมยืนยันว่า เราไม่เอาไว้ ถึงเป็นใครก็ต้องดำเนินการทั้งหมด
ขณะที่ รองเลขาฯ ปปง. กล่าวว่า ได้มีการยึดทรัพย์กลุ่มแรกซึ่งเป็นนอมินีและบริษัทชิปปิ้ง 8 บุคคล 6 บริษัท รวมไปถึงได้มีการประสานกับ DSI ในการดำเนินการยึดทรัพย์กลุ่มต่อไป และดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องในการรับโอนเงิน รับผลประโยชน์จากผู้กระทำความผิดในกลุ่มที่ ปปง.ดำเนินการทางแพ่งและยึดทรัพย์ โดยขณะนี้อยู่ในชั้นศาล ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้อง จะต้องมาชี้แจงกรณีการได้มาซึ่งทรัพย์ เพื่อคุ้มครองอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ หรือสินค้าทางการเกษตรของประชาชนให้ได้ราคาที่เหมาะสม และไม่ให้มีการนำเข้าจากต่างประเทศมาทำลายราคาสินค้าในประเทศให้ตกต่ำ
เมื่อถามว่าข้าราชการการเมืองที่เข้าไปเกี่ยวข้องคือใคร อธิบดี DSI กล่าวว่า เป็นข้าราชการการเมืองและ อดีตข้าราชการการเมือง จำนวนรวมกว่า 20 คน รวมถึงกลุ่มนายทุน และกลุ่มบริษัทที่เข้ามาดำเนินการร่วมด้วย แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านข้อกฎหมายในเรื่องนี้ และเป็นกรอบภารกิจอำนาจหน้าที่ที่ทาง DSI จะต้องส่งไปยัง ป.ป.ช. รายละเอียดต่างๆ จึงห้ามเปิดเผย โดยยืนยันว่า DSI จะดำเนินการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นใคร โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งไปในสำนวน ส่วนจะใช้เวลาเท่าไหร่นั้น ตนไม่ขอก้าวล่วงในอำนาจของสำนักงาน ป.ป.ช แต่ DSI ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นและส่งต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้ว หาก ป.ป.ช.จะประสานส่งกลับให้ทาง DSI ดำเนินการต่อ ก็เป็นไปตามกรอบอำนาจที่ทาาง ป.ป.ช.สามารถดำเนินการได้
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์ในการสืบสาวข้อมูลตัวคนผิดว่า ณ เวลานี้มีการออกหมายจับและหมายค้นผู้กระทำความผิด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้แล้ว โดยได้ซักทอดไปยังกลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 3 ซึ่งเป็นนักการเมืองระดับสูง ส่วนรายละเอียดต่างๆไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากมีกฎหมายคุ้มครอง ส่วนผู้กระทำความผิดรายย่อยก็จะถูกดำเนินคดีทุกคน
“สิ่งสำคัญที่สุด ได้รับนโยบายจากนายกฯ ให้ set Zero ห้องเย็น ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หลังจากนี้ไปจนถึงวันที่ 15 ธ.ค. 2566 หากไม่มาขึ้นทะเบียน ถือว่าเป็นผู้ประกอบการห้องเย็นเถื่อน และถูกดำเนินคดีทางอาญาทันที”
ส่วนการทำลายของกลางหมูเถื่อน 160 ตู้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดต้องยอมรับว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง พอรู้ว่าจะทำลายสินค้าหมูเถื่อน ก็จะมีกระบวนการที่ทำให้ไม่สามารถนำไปฝังกลบหรือทำลายได้ ดังนั้น “ที่ผ่านมาที่เห็นว่าเงียบไป ไม่ใช่ว่าไม่ทำ แต่บางครั้งเรื่องนี้จะต้องสงวนเป็นชั้นความลับ เนื่องจากเมื่อเปิดเผยแล้วจะเกิดอุปสรรค ทั้งนี้ ได้สั่งให้มีการบันทึกวีดีโอไว้ทั้งหมดแล้ว โดยจะเปิดเผยรายละเอียดหลังจากที่ทำลายซากหมูเถื่อนเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสิ้นเดือน พ.ย.นี้