“รมว.สุดาวรรณ” เดินเครื่องพัฒนาด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวยั่งยืน ชู “กลไกมาตรฐานยกระดับพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสู่สากล” ขับเคลื่อนดึงรายได้จากต่างชาติกระจายสู่พื้นที่แหล่งท่องเที่ยว หล่อเลี้ยง “เศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่น”
วันที่ 29 ม.ค. 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) เปิดเผยเในโอกาสเป็นประธานในพิธีส่งมอบตราสัญลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก (2023 Green Destinations Top 100 Stories ) ว่า การบริหารการพัฒนาพื้นที่และแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน จนสามารถสร้างและกระจายรายได้จากการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการที่ดี เพื่อลดผลกระทบด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยว
ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืนนั้น เป็นนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มอบหมายให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ดำเนินการขับเคลื่อนและพัฒนาการท่องเที่ยวให้เกิดความสมดุลใน 3 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จากกระบวนการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นและชุมชนในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว และใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้และกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน ท้องถิ่นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม นำไปสู่ความอยู่ดีกินดีของประชาชนในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวนั้นได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ยังมอบให้ อพท. สร้างกลไกในการประสานการดำเนินงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภายในกระทรวงฯ หน่วยงานภาครัฐทั้งจากส่วนกลาง ภูมิภาคและท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคการศึกษาและชุมชน ที่มีบทบาทในการพัฒนาและบริหารจัดการการท่องเที่ยว ภายใต้เป้าหมายการพัฒนาเดียวกัน คือ ทำให้แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่มีการบริหารจัดการได้ตามมาตรฐานสากล เป็นที่มาของความสำเร็จของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 3 แหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของไทย คือ พื้นที่ตำบลในเวียง จังหวัดน่าน พื้นที่ตำบลเมืองเก่า จังหวัดสุโขทัย พื้นที่คลองท่อม จังหวัดกระบี่
ไม่เพียงเป็นผลสำเร็จจากการปฏิบัติและความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน ทุกระดับ ที่เกี่ยวข้องกับงานพัฒนาการท่องเที่ยว แต่ยังเป็นต้นแบบในการยกระดับพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ให้เห็นถึงความสำเร็จจากผลของความร่วมมือกันพัฒนาทรัพยากรและสามารถนำไปบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ของตัวเองได้ด้วย รวมถึงแสดงให้เห็นกระบวนการในการบูรณาการความร่วมมือของการพัฒนาพื้นที่ได้อย่างดี ท่าน
นอกจากนี้ นาวาอากาศเอกอธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ อพท. ได้กล่าวเสริมด้านการดำเนินงาน ว่า อพท. มีแผนงานและกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานในระดับสากล โดยนำหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria หรือ GSTC) มาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษและพื้นที่เตรียมการประกาศเป็นพื้นที่พิเศษ โดยดำเนินการร่วมกับจังหวัด และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษฯ ทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันพัฒนาให้แหล่งท่องเที่ยวมีคุณภาพ ตามนโยบาย Quality Destination ของ รมว.กก. ตอบสนองความต้องการของตลาดคุณภาพสูง รองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตั้งแต่ปี 2563 โดยได้ผลักดันแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษฯ จนได้รับการจัดลำดับให้เป็น “สุดยอดแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แหล่งของโลก” รางวัล Green Destinations Top 100 Stories มาแล้วจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย และ ตำบลในเวียง จังหวัดน่าน ตำบลเมืองเก่า จังหวัดสุโขทัย และเกาะหมาก จังหวัดตราด ซึ่งดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2566 ได้เสนอผลงาน Good Practice ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในพื้นที่ตำบลในเวียง จังหวัดน่าน (Nan Old City) ในประเด็นการจัดการขยะท่องเที่ยวด้วยกระบวนการทางสังคมของเมืองเก่าน่าน พื้นที่ตำบลเมืองเก่า จังหวัดสุโขทัย ในประเด็นการอนุรักษ์ธรรมชาติเพื่อปกป้องแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม กรณีสัตว์รุกรานในเมืองเก่าสุโขทัย และพื้นที่คลองท่อม จังหวัดกระบี่ ในประเด็นการจัดการป่าต้นน้ำที่ควรได้รับการดูแล รักษาและปลูกป่าทดแทนโดยชุมชนควบคู่กับการบริหารจัดการการท่องเที่ยว เพื่อปกป้องรักษาฐานทรัพยากรหลักด้านการท่องเที่ยวให้ยั่งยืน
จากนี้ อพท. เตรียมขยายผลการดำเนินงานการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษของ อพท. ไปสู่มาตรฐานระดับสากล ตลอดจนการเชื่อมโยงเครือข่ายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างองค์กรการจัดการการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ โดยในปี 2567 อพท. จะดำเนินการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวตามเกณฑ์ GSTC อีกจำนวน 7 แหล่ง ในจังหวัดตราด ชลบุรี สุโขทัย เลย น่าน สุพรรณบุรี และลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เพื่อยื่นประกวดรางวัล Green Destinations Top 100 Stories ในปีต่อไป
#กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา #ข่าวท่องเที่ยว #ข่าวเศรษฐกิจ #มิชชั่นไทยแลนด์ #MissionThailand