เคลียร์ลงตัว ปมพื้นที่พิพาท ส.ป.ก.เขาใหญ่ “ธรรมนัส” สั่งตรวจ! หากไม่ใช่เกษตรกรเข้าทำกิน ให้ “ยึดพื้นที่คืน” ชม “กรมอุทยานฯ” กล้าหาญ! ลุกขึ้นมาปกป้องผืนป่า
วันที่ 27 ก.พ. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงความคืบหน้ากรณีที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ทับซ้อนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กรมแผนที่ทหารได้ทำหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หลังจัดทำแผนที่ One map ตรงพื้นที่ดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว นายเศรษฐาจึงสั่งการให้ตนพร้อม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงข่าว โดยยืนยันว่า “ทั้ง 2 หน่วยงานไม่มีใครผิดใครถูก เนื่องจากถือแผนที่คนละฉบับ ไม่มีใครมีเจตนาร้ายที่จะไปทำลายทรัพย์สินส่วนราชการของสำนักงานปฏิรูปที่ดิน”
ทั้งนี้ ขอชื่นชมนายไชยา ห้วยหงส์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และทีมงานที่กล้าหาญ ลุกขึ้นมาปกป้องป่า ซึ่งในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้มีการตั้งกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ที่มีพฤติกรรมส่อผิดกฎหมายในการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. พร้อมทั้งมอบที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ปปป.) ดังนั้น หากตรวจพบผิดตามกฎหมาย ก็จะดำเนินคดีมาตรา 157 วินัยร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า “จะทำอะไรที่เป็นการรังแกข้าราชการ หากดำเนินการด้วยความบริสุทธิ์ใจก็อย่าไปกลัว แต่หากประพฤติมิชอบก็จะดำเนินการเอาผิด”
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวยืนยันว่า หนังสือที่เจ้ากรมแผนที่ทหารนำเสนอต่อนายกฯ ระบุชัดเจนว่า “พื้นที่ที่ ส.ป.ก.ไปปักหมุด อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยาน” แต่เนื่องจาก พื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับพื้นที่อุทยานเขาใหญ่ จึงเห็นว่าควรกันเป็นพื้นที่กันชน ซึ่งถ้าตนเป็น ส.ป.ก. จังหวัด ด้วยจิตสำนึกตามที่ ผอ.ชัยวัฒน์ระบุก็ไม่ควรทำอย่างยิ่งที่จะนำพื้นที่นี้มาทำเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. ยืนยันว่า ตนได้หารือกับ พล.ต.อ.พัชรวาท รวมถึง ปลัด 2 กระทรวง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เห็นพ้องว่าต้องแก้ปัญหาไม่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทะเลาะกัน แต่ไม่โทษใคร เพราะ “ต่างฝ่ายถือแผนที่คนละฉบับ ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง”
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก.รอบเขาใหญ่ทั้งหมด ว่า จัดสรรที่ดินโดยผิดกฎหมายหรือไม่ หรือจัดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นเกษตรกรเข้าไปทำกินหรือไม่ หากพบว่า เป็นรีสอร์ต หรือ โรงแรม จะยึดคืน เรื่องนี้ได้ให้สำรวจทั่วประเทศด้วยในลักษณะเดียวกัน หากพื้นที่ยังไม่ได้จัดสรร ทาง 2 หน่วยงานมีการหารือกันแล้วว่าจะทำเป็นป่ากัน “ดังนั้นใครที่ไม่ได้ใช้พื้นทีทำการเกษตรหรือไม่ใช่เกษตรกรจริงก็ขอให้มอบตัวซะ อย่าให้ฝ่ายกฎหมายลงไปจัดการ พื้นที่นี้จะทำผิดวัตถุประสงค์ไม่ได้” ย้ำว่า พื้นที่ที่มีปัญหาไม่ว่าจะกี่แปลงก็จะเพิกถอนให้หมด เรื่องในบ้านเมื่อคุณทำผิด คุณส่อเจตนาอะไร เรารู้หมด ใครทำอะไรอยู่ ก็รับกรรมไปแล้วกัน เราไม่มีละเว้น
“ท่านนายกฯ ลงมาสั่งการด้วยตัวเอง ไม่ให้เกิดข้อพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่ เมื่อเช้าผมประชุมที่ดิน 72 จังหวัด และได้ข้อสรุปว่า ต่อจากนี้ 2 หน่วยงานจับมือพิทักษ์ป้า พื้นที่อุทยานฯด้วยกัน ทำกันชนทั้งประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และขอยืนยันว่า ตนกับพล.ต.อ.พัชรบาท ไม่มีข้อบาดหมาง หรือขัดแย้งใดๆทั้งสิ้น ตนเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นน้อง เปรียบเสมือนเป็นเด็กก็ให้ความเคารพนับถือ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว