“นฤมล” เผย “อุตฯดิจิทัล” โต 30% ของ GDP โลกภายในปี 30 “รัฐบาลเศรษฐา” เร่งดึงเงินลงทุน รองรับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 5 (5IR)

“นฤมล” เผย “อุตฯดิจิทัล” โต 30% ของ GDP โลกภายในปี 30 “รัฐบาลเศรษฐา” เร่งดึงเงินลงทุน รองรับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 5 (5IR)

วันที่ 29 ก.พ. 2567 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่อุตสาหกรรมดิจิทัล เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมดิจิทัลในภูมิภาคตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศวิสัยทัศน์เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อเตรียมรองรับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปฎิวัติอุตสากรรมครั้งที่ 5 หรือ the 5th Industrial Revolution (5IR) 

ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า การปฎิวัติอุตสากรรมครั้งที่ 4 หรือ 4IR ค่อย ๆ เกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณปี 2010 เกิดเป็น Digital Economy ที่ครอบคลุมเทคโนโลยีใหม่ในขณะนั้น เช่น ioT, AI , Robotics , Blockchain, Biotechnology, Quantum Computing รัฐบาลไทยในสมัยนั้นจึงใช้ยุทธศาสตร์ ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อรองรับเศรฐกิจดิจิทัล และเปลี่ยนกระทรวง ICT เป็น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงขยายขอบเขตภารกิจความรับผิดชอบให้กว้างขึ้นตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปที่มากไปกว่าแค่เรื่องของ Information and Communications Technologies (ICT) จากนั้นมา ได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมาอย่างต่อเนื่องจนประเทศไทยอยู่ในแนวหน้าของภูมิภาคด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ในขณะเดียวกัน ได้มีการสนับสนุนการลงทุนในเรื่อง Big Data ทั้งของภาครัฐและเอกชน และส่งเสริมการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลทั้งที่ระดับหลักสูตรของสถาบันการศึกษาและการอบรมทั้ง reskill and upskill สำหรับแรงงานไทย

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก World Bank แสดงสัดส่วนอุตสาหกรรมดิจิทัลนับเป็น 15% ของ GDP โลก และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเป็น 30% ของ GDP โลกภายในปี 2030 จากความกังวลที่คิดว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้คนตกงาน การคาดการณ์กลับพบว่า เมื่อเข้าสู่ the 5IR ที่ Digital Economy จะกลายเป็น Re-humanized หรือ Personalized Economy ที่เทคโนโลยี 4IR จะกลับมาสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้มนุษย์ในหลากหลายมิติ เช่น การสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นจากการออกแบบเฉพาะรายบุคคลให้กับลูกค้า การรักษาพยาบาลที่ออกแบบเฉพาะรายบุคคลเพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งการศึกษาที่ออกแบบเฉพาะรายบุคคลเพื่อสร้างการเรียนรู้ที่ดีที่สุด ทั้งหมดนี้ จะเกิดการลงทุนในธุรกิจรูปแบบใหม่จำนวนมาก ที่คาดว่าจะนำไปสู่การจ้างงานใหม่ถึง 30 ล้านตำแหน่ง 

“เพื่อให้ประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการไทยและแรงงานไทยได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรม 5IR นี้ รัฐบาลจึงพยายามดึงดูดเงินลงทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่และบริษัทสตาร์ทอัพในห่วงโซ่อุปทานของ 5IR ให้มากขึ้น เพื่อสร้าง ecosystem สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจไทยเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 5 ทั้งนี้ ในฐานะผู้แทนการค้าจึงได้หารือและชักชวนบริษัทด้าน Data center และ Data Analytics เข้ามาลงทุนในไทยให้มากขึ้น เรื่องนี้มีความสำคัญ เพราะข้อมูลกับการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญสำหรับ Personalized Economy ที่จะเกิดขึ้นต่อไป” ศ.ดร.นฤมล กล่าวย้ำ

 

#นฤมลภิญโญสินวัฒน์ #ผู้แทนการค้าไทย #อุตสาหกรรมดิจิทัล #ศูนย์กลางอุตสาหกรรมดิจิทัลในภูมิภาค #เศรษฐาทวีสิน #นายกรัฐมนตรี #ข่าวเศรษฐกิจ #Mission Thailand

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

"ธรรมนัส" จับมือทุกภาคส่วนเร่วมแก้ปัญหา "ประมง" ให้ตรงจุด พร้อมขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องชาวประมง

“ธรรมนัส” จับมือทุกภาคส่วนเร่วมแก้ปัญห […]

You May Like

Subscribe US Now