ททท.สนง.สมุทรสงคราม ชวนเที่ยว “งานประเพณีแห่เจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ประจำปี 2567” ระหว่างวันที่ 12-16 มิถุนายนนี้
วันที่ 4 มิ.ย.67 นายชัยวิทย์ เผื่อนอุดม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับ เทศบาลนครสมุทรสาคร คณะกรรมการบริหารศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม หน่วยงานภาครัฐและเอกชน พ่อค้า และประชาชนในจังหวัดสมุทรสาคร กำหนดจัด “งานประเพณีแห่เจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ประจำปี 2567” ในระหว่างวันที่ 12-16 มิถุนายน 2567 ณ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เพื่อแสดงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่มีความศรัทธา ต่อเจ้าพ่อหลักเมือง ที่เปรียบเสมือนดังหลักชัย รวมนำชัยให้เจริญรุ่งเรืองแก่ชาวประมงสมุทรสาคร
เจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร เป็นแผ่นไม้รูปแกะสลักขนาดสูง 1 เมตร เรียกว่าเจ้าจอมเมืองเป็นรูปเทวดาหัตถ์ขวายกประทานพร หัตถ์ซ้ายถือพระขรรค์ ลักษณะคล้ายองค์พระสยามเทวาธิราชอยู่ในท่าประทับยืนบนเกี้ยวซึ่งแกะสลักอย่างประณีต จากนั้นปิดทองคำเปลวบริสุทธิ์ทับไปอีกชั้นหนึ่ง มีกุมารน้อย 2 คน เป็นบริวารอยู่ด้านข้าง มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า แผ่นไม้สลักลอยน้ำผ่านคลองมหาชัย ชาวบ้านได้อัญเชิญขึ้นสักการะสร้างเป็นศาลเล็กๆ ไว้ที่ป้อมวิเชียรโชฏก เรียกศาลเทพเจ้าจอมเมืองตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ต่อมาได้มีการสร้างอาคารทรงไทยในปี พ.ศ. 2460 แต่อาคารนี้ถูกรื้อหลังการก่อสร้างศาลหลักเมือง ในปี พ.ศ. 2525 จึงได้เชิญเจ้าพ่อหลักเมืองไปประดิษฐานบนด้านเหนือศาลหลักเมือง แต่มีการประทับทรงเจ้าพ่อวิเชียรโชติ จึงได้สร้างอาคารใหม่ เป็นศิลปกรรมจีนรายล้อมไปด้วยมังกรสวยงามมาก สถานที่แห่งนี้ จึงเป็นที่นับถือ กราบไหว้ของชาวไทยชาวจีน อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมจิตใจที่สำคัญแห่งหนึ่งของชาวจังหวัดสมุทรสาคร อาจกล่าว ได้ว่าชาวสมุทรสาคร ทุกคนต้องมากราบไหว้สักการะเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ทั้งชาวไทย ชาวจีน ผู้คนจากหลากหลายอาชีพ โดยเฉพาะชาวประมงก่อนออกเรือหาปลาทุกครั้งมักขอพรบนบานให้ได้ปลากลับมาจำนวนมาก มีความสุขความเจริญ และเดินทางปลอดภัยทุกครั้งไป หากประสบความสำเร็จในกิจการออกเรือกลับมา จะมีการแก้บนด้วยฝิ่นเสมอ โดยนำมาป้ายที่บริเวณปาก ด้วยความเคารพและความศรัทธาอันใหญ่ยิ่ง จึงได้เกิดงาน “ประเพณีแห่เจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร” เป็นประจำทุกปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2508 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน
โดยในปีนี้ พิธีแห่เจ้าพ่อหลักเมืองฯ จะมีขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 น. ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของงาน โดยจะอัญเชิญเจ้าพ่อหลักเมืองฯ ประทับเกี้ยว พร้อมอัญเชิญประทับในเรือประมงแห่ไปทางน้ำ ข้ามแม่น้ำท่าจีนและแห่ไปตามถนนสายต่างๆ ทั้งฝั่งท่าฉลอมและมหาชัย รวมทั้งมีการตั้งโต๊ะบูชาเพื่อทำพิธีเปลี่ยนธูปตลอดเส้นทางขบวนแห่เจ้าพ่อหลักเมืองฯ ให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้ร่วมกันสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ขบวนแห่ทางบกประกอบไปด้วยหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดสมุทรสาครจำนวนมาก ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะจัดตกแต่งขบวนและเข้าร่วมขบวนแห่อย่างสวยงาม เพื่อสร้างสีสันให้เป็นขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ทั้งทางบกและทางน้ำ
โดยประกอบไปด้วยขบวนทางบกกว่า 45 ขบวน และขบวนทางน้ำสวยงามตระการตา ถือเป็นขบวนแห่ทางน้ำหนึ่งเดียวในประเทศด้วยเรือประมงกว่า 30 ลำ จำนวนผู้เข้าร่วมกว่า 10,000 คน สำหรับวันคล้ายเกิดของเจ้าพ่อหลักเมืองฯ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2567 ในเวลา 10.00 น. จะมีพิธีไหว้วันเกิดเจ้าพ่อหลักเมืองฯ และประมูลของมงคลของเจ้าพ่อด้วย
นอกจากนี้ บริเวณใกล้กันนั้นยังได้มีการจัด “งานถนนคนเดิน” ระหว่างวันที่ 12-17 มิถุนายน 2567 ณ บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษามหาราชา ข้างศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ซึ่งจัดโดย สำนักงานเทศบาลนครสมุทรสาคร ภายในงานพบการออกร้านจำหน่ายสินค้า อาหาร ของฝากของที่ระลึก ผลิตภันณฑ์ชุมชน และของดีจังหวัดสมุทรสาคร กว่า 150 ร้าน พร้อมรับชมการแสดงจากนักเรียน และศิลปินชื่อดังมากมายทุกคืน นอกจากนี้ในคืนสุดท้าย 17 มิถุนายน 2567 ร่วมชม เชียร์ และให้กำลังใจผู้เข้าประกวดชายงาม และสาวประเภทสอง มหรสพชมฟรีตลอดงาน ตั้งแต่ 16.00 น. เป็นต้นไป
ในโอกาสนี้ ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม จึงขอประชาสัมพันธ์การจัดงานดังกล่าว และขอเชิญชวนชาวจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยวผู้มีจิตศรัทธาต่อองค์เจ้าพ่อหลักเมืองร่วมงานได้ ตั้งแต่วันที่ 12-16 มิถุนายน 2567 และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้ในวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ที่บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมได้อีกมากมาย เช่น
ตลาดสดมหาชัย ย่านการค้าชื่อดังของ จังหวัดสมุทรสาคร ที่รวมแหล่งอาหารทะเลที่มีความสดชนิดที่ว่าขึ้นจากเรือมาเลย ซึ่งมีให้เลือกมากมาย ตามใจชอบ ทั้งอาหารทะเลสด อาหารทะเลแห้ง และอาหารแปรรูปคุณภาพดี มีให้เดินเลือกกันแบบชิลล์ๆ ในราคาเป็นกันเอง และเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญ สำหรับนักช้อป ที่กำลังมองหาของสดใหม่ แหล่งรวมอาหารทะเลสดๆ ที่ต้องห้ามพลาดศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำสมุทรสาคร หรือ อควาเรียม สมุทรสาคร ตั้งอยู่ ต.โคกขาม อ.เมืองฯ เป็นสถานที่จัดแสดงปลาและสิ่งมีชีวิตทางทะเลต่าง ๆ โดยจัดแสดงทั้งในตู้แบบแทงค์กลม และบ่ออนุบาลสัตว์ทะเลที่ได้รับบาดเจ็บ จุดไฮไลท์ คือ รูปปั้นปลาวาฬบรูด้าสูง 17 เมตร เป็นสัญลักษณ์จ้าวแห่งท้องสมุทรในน่านน้ำไทย ตั้งอยู่หน้าศูนย์ฯ ทางเดินอุโมงค์ใต้น้ำ และโชว์แสดงการให้อาหารปลา เป็นต้น ภายในศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งนี้ มีการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ กว่า 100 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น ฉลามบก, ปลาไหลมอเรย์, ปลาตะกรับลายบั้ง, ปลาผีเสื้อนกกระจิบ, กระเบนทองจุดฟ้า, ปลาเก๋า, ปลากุเรา, กะพงแดง, ปลาช่อนทะเล, ปลาการ์ตูน, ปลาสิงคโปร์แองเจิ้ล, ปลาบู่หน้าผี, ปลาหมอส้มและอีกมากมาย
เที่ยวตามรอยเกจิดัง “117 เกจิอาจารย์ สังขารเหนือกาลเวลา” 17 จังหวัด ภาคกลาง : พระเกจิลุ่มน้ำท่าจีน พลังแห่งศรัทธา ณ สมุทรสาคร สักการะพระครูโฆสิตธรรมสาคร หลวงปู่ขำ ทีปกโร วัดสหกรณ์โฆสิตาราม ต.โคกขาม อ.เมืองฯ วัดแห่งนี้ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย โดยมีพระครูสาครธรรมโฆสิต ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ท่านแรก ซึ่งเดิมเป็นสำนักสงฆ์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2492 เริ่มต้นจากการสร้างกุฏิหลังคามุงจากอยู่เพียง 1 หลัง เพื่อให้ชาวบ้านประกอบกิจทางศาสนา จนในสมัยหลวงจินดา อดีตอธิบดีกรมสหกรณ์ เมื่อ พ.ศ. 2490 ได้ร่วมกับประชาชนได้ไปอาราธนาหลวงปู่ขำให้มาจำพรรษา ต่อมาปี พ.ศ. 2492 ได้ขอตั้งวัด และท่านได้บูรณะวัดให้เจริญสืบมาจนทุกวันนี้
พักแป๊บคาเฟ่ เป็นคาเฟ่เรือนกระจกสุดเท่ตกแต่งสุดชิค ฟีลสวยหรูแบบมีคลาส ตัวร้านเป็นอาคารเรือนกระจกหลังคาหน้าจั่วเพดานสูงโปร่งโล่ง เพิ่มความอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และผนังอิฐ มีทั้งโซนเอาท์ดอร์จัดแต่งเป็นสวนสีเขียวประดับด้วยไม้ประดับให้ความรู้สึกร่มรื่น และโซนน่านั่งริมคลองพร้อมหมอนอิงสุดเก๋ให้ได้ผ่อนคลาย ส่วนเมนูมีทั้งอาหารคาว เครื่องดื่ม และเค้กโฮมเมดไว้บริการมากมาย เป็นตัวช่วยเติมเต็มบรรยากาศของการแวะพักได้แบบเต็มอิ่ม
บ้านท่าฉลอม ศูนย์การท่องเที่ยวและกิจกรรมชุมชนของท่าฉลอม แหล่งข้อมูลท่องเที่ยวชุมชนบ้านท่าฉลอมริมแห่งลุ่มน้ำท่าจีน จุดเริ่มต้นเส้นทางท่องเที่ยว ชมสตรีทอาร์ทบ้านท่าฉลอม ชมศิลปะบนกำแพงและฝาท่อซึ่งมีสีสันสวยงามและเป็นรูปภาพที่แสดงอัตลักษณ์ของชุมชนบ้านท่าฉลอม อาทิ มังกร ปลาทะเล สามล้อถีบ รถไฟ เป็นต้น จุดเช็คอินแลนด์มาร์คที่ห้ามพลาด ปลาวาฬ 17 ตัวบนสะพานสตรีทอาร์ทท่าฉลอม บริเวณหน้าวัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมืองฯ
กราบหลวงปู่แก้ว ณ วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) หลวงปู่แก้ว สุวัณณโชโต หรือพระเทพสาครมุนี อดีตเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร และเจ้าอาวาสวัดช่องลม ซึ่งเป็นเกจิดัง 1 ใน “117 เกจิอาจารย์ สังขารเหนือการเวลา” 17 จังหวัดภาคกลาง ภายในวิหารหลวงปู่แก้ว มีนกนางแอ่นมาสร้างรังอาศัยอยู่กว่าพัน ๆ ตัว และสักการะ หลวงพ่อหินแดง พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย สร้างจากศิลาแลงทั้งองค์และประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ มีลักษณะพิเศษคือที่พระหัตถ์ข้างซ้าย จะมี 6 นิ้ว เลยเป็นที่มาของชื่อ หลวงพ่อหินแดง 11 นิ้ว เป็นต้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร โทร. 0 3442 5150 หรือ เทศบาลนครสมุทรสาคร โทร. 0 3441 1208 , 0 3441 3853 หรือ ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0 3475 2847-8 Inbox Facebook : ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม : TAT Samut Songkhram Office
#งานประเพณีแห่เจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร #ประจำปี2567 #สมุทรสาคร #เที่ยวสมุทรสาคร #สมุทรสาครเมืองน่าเที่ยว #สมุทรสาครนครแห่งอาหารทะเล #สุขทันทีที่เที่ยวสมุทรสาคร #ททท_สมุทรสงคราม
