อาคารสินธรคว้ารางวัล LEED (O+M) GOLD และ FITWEL 2 ดาว ตอกย้ำแนวคิด ‘E-S-G’ ผู้นำออฟฟิศรักษ์โลกรับกระแสเทรนด์ยั่งยืนในไทย
นายสืบพงษ์ เกียรติวิศาลชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสินธร จำกัด เปิดเผยว่า อาคารสินธร เป็นอาคารสำนักงานในกลุ่มสยามสินธรที่ดูแลและดำเนินการโดยคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้บริการอาคาร ภายใต้แนวคิด ‘E-S-G’ ซึ่งมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ที่นำมาสู่การยอมรับและสามารถคว้ารางวัลอาคารมาตรฐานโลกได้ถึง 2 รางวัล ได้แก่ มาตรฐาน LEED GOLD (Leadership in Energy & Environmental Design) และ FITWEL ระดับ 2 ดาว
โดยอาคารสินธร ได้รับรองมาตรฐาน LEED GOLD ประเภท LEED for Operation and Maintenance (O+M) จาก US Green Building Council ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดที่มอบให้กับอาคารที่มีการดูแลรักษาอาคารที่มีอยู่เดิมที่ได้มาตรฐานประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืน
อีกรางวัลที่ได้รับคือ มาตรฐาน FITWEL ระดับ 2 ดาว ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่พัฒนาโดยกรมควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา (CDC – Centers for Disease Control and Prevention) และดำเนินการโดย Center for Active Design (CfAD) ซึ่งเป็นองค์กรตรวจประเมินและจัดอันดับอาคารเพื่อคุณภาพชีวิตผู้ใช้งาน ด้วยเป้าหมายให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อสุขภาพและสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคาร เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดทั้งโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อซึ่งเป็นสาเหตุของความเจ็บป่วยและเสียชีวิตของคนทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงแค่ส่งผลกับสุขภาพของบุคคล แต่ยังมีผลกระทบด้านเศรษฐศาสตร์จากประสิทธิภาพการทำงานไม่เต็มที่ และค่าใช้จ่ายในการดูแลความเจ็บป่วยในองค์กร
เราส่งเสริมและสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินงานตามหลักการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล การได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED (O+M) GOLD และ FITWEL เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความตั้งใจในการสร้างสรรค์อาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนของผู้ใช้อาคาร ซึ่งเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง” นายสืบพงษ์กล่าว
ESG ขับเคลื่อนคว้ามาตรฐานระดับโลก
นายสืบพงษ์ กล่าวว่า จากแนวคิดของ ESG ทำให้ใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้บริการอาคารสำนักงานสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทางธุรกิจ และได้รับประโยชน์มากที่สุด ขณะที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน Climate Change สังคม และสิ่งแวดล้อม
เริ่มจาก E-ENVIRONMENT ทางอาคารสินธรได้พัฒนา LEED อย่างรอบด้านในทุกมิติ เพื่อมุ่งสู่การเป็น Sustainable Workplace for Life อย่างแท้จริง นอกเหนือจากการประหยัดพลังงานแล้ว เราให้ความสำคัญกับความโปร่ง โล่ง สบาย คุณภาพอากาศที่ดี การควบคุมความชื้น ป้องกันเชื้อรา ลดการติดต่อของโรค อากาศถ่ายเทดี มีต้นไม้ใหญ่รอบอาคารให้ความร่มรื่น เพิ่มสวนและแสงธรรมชาติในอาคาร สร้างบรรยากาศที่ดีและลดความเครียดจากการทำงาน นอกจากนี้ยังมีการจัดการขยะ (Waste management) อย่างครบวงจร ทั้ง Reduce Reuse Recycle มีการคัดแยกขยะรีไซเคิลภายในอาคาร ลดการใช้พลาสติกในศูนย์อาหาร นำ Food waste มาทำปุ๋ยเพื่อใช้ดูแลสวนและลดการใช้ปุ๋ยเคมี รวมไปถึงการจัดกิจกรรม “2nd HAND MARKET” อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงานในอาคารนำสิ่งของมาแลกเปลี่ยนสร้างการมีส่วนร่วม ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและลดปริมาณขยะสู่สิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง
ในด้านพลังงานสะอาด อาคารสินธรได้ติดตั้งโซลาร์รูฟบนหลังคาเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ พร้อมทั้งจัดให้มีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อสนับสนุนการใช้ยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังส่งเสริมการเดินทางแบบลดคาร์บอนด้วยบริการรถรับส่งไฟฟ้า (EV ride-sharing) และที่จอดรถจักรยานในร่มฟรีสำหรับผู้ใช้งานอาคาร
ด้าน S-SOCIAL มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและสันทนาการให้กับผู้เช่าและพนักงานของอาคาร อย่างสม่ำเสมอ จัดพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงาน มีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ 900 ที่นั่ง สะอาด ราคาประหยัด เพื่อความสะดวกของคนในอาคาร และบริการคนโดยรอบพื้นที่ในย่านนี้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการจัดน้ำดื่มสะอาดไว้บริการเพื่อลดภาระค่าครองชีพของผู้เช่า และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน อีกทั้งยังสนับสนุนกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ให้กับชุมชนรอบๆ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนในพื้นที่
อาคารสินธร ยกระดับมาตรฐานด้านสุขภาวะของผู้ใช้อาคารตามหลัก FITWEL ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้งานอย่างครอบคลุม อาทิ การปรับปรุงทางเท้าสำหรับเข้าพื้นที่อาคาร ส่งเสริมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ด้วยการรณรงค์ให้ผู้ใช้อาคารเลือกใช้บันไดแทนการขึ้นลิฟต์ เพื่อสนับสนุนการออกกำลังกายและลดการใช้พลังงาน จัดแสงสว่างเพียงพอ ไม่มีมุมอับ มีอุปกรณ์ช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน พร้อมพนักงาน Safety ดูแลประจำในพื้นที่อาคาร
ทั้งนี้ยังมีการจัดเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ (Healthy Food) ภายในศูนย์อาหารของอาคารและร้านอาหารที่จำหน่ายในอาคาร ซึ่งมีเมนูที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ ปราศจากสารปรุงแต่งที่เป็นอันตราย และให้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีและไว้เป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้อาคาร
มาตรการเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนที่ใช้ชีวิตในอาคารสินธร พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจอย่างแท้จริง
สุดท้ายเป็น G-GOVERNANCE การดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ซึ่งการได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED (O+M) GOLD และ FITWEL ไม่เพียงแต่ยืนยันถึงการดูแลรักษาและการดำเนินงานที่ยั่งยืนของอาคารสินธรเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างต้นแบบที่ดีในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
“เรามุ่งมั่นและไม่หยุดพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์อาคารที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานในประเทศไทยและภูมิภาค โดยยึดหลักของ Sustainability และ ESG อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับทุกคน ” นายสืบพงษ์กล่าว
รับเทรนด์อาคารสำนักงานสีเขียวโตแรง
ในปัจจุบันเทรนด์ตลาดอาคารสำนักงานยุคใหม่หันมาให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (Sustainability) และ ESG โดยใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และ ธรรมาภิบาล (Governance) กำลังเป็นตลาดที่ได้รับการตอบรับจากผู้เช่ามากขึ้น โดยผู้เช่าที่เป็นเจ้าของธุรกิจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจะไม่ได้มองเฉพาะทำเลที่ตั้ง และความสวยงามของอาคารเท่านั้น แต่ยังมองถึงปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพของอาคารในการประหยัดพลังงาน การบริหารจัดการน้ำและของเสีย การจัดการขยะผ่านกระบวนการ 3Rs (Reduce, Reuse, Recycle) รวมถึงการมีพื้นที่สีเขียวไว้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจระหว่างการทำงาน
นอกจากนี้ แนวโน้มของอาคารสำนักงานสีเขียว (Green Offices) ยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน และไม่มองข้ามประเด็นด้านความยั่งยืน โดยคนทำงานยุคใหม่จะให้ความใส่ใจกับปัญหาด้านมลภาวะและหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ทั้งที่บ้าน และครอบคลุมถึงการใช้ชีวิตในช่วงเวลาทำงานประมาณ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งการยกระดับอาคารสำนักงานให้สามารถสร้างความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี และทำให้ผู้ใช้งานอาคารมีสุขภาวะ (well-being) ที่ดี จะเป็นตัวเลือกลำดับแรกๆ ของผู้เช่าในปัจจุบัน
