กัญจน์ เจริญกุล โปรกอล์ฟหนุ่มไทย ตั้งเป้าคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกให้กับทัพกีฬาทีมชาติไทยหลังได้สิทธิ์ร่วมประชันวงสวิงในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก “โตเกียว เกมส์ 2020” ที่ประเทศญี่ปุ่น จากการทำคะแนนสะสมโอลิมปิก กอล์ฟ แรงกิ้ง เข้ามาเป็นอันดับ 52 ในกลุ่ม 60 นักกอล์ฟที่ได้ตั๋วชิงชัย และเป็นครั้งแรกที่จะได้ลงแข่งขันกอล์ฟในนามทีมชาติไทย
โปรหนุ่มวัย 29 ปี ซึ่งลงเล่นทั้งในเอเชียนทัวร์และเจแปนกอล์ฟทัวร์ เผยว่า “ในช่วงเริ่มต้นอาชีพนักกอล์ฟตอนอายุ 16-17 ปี ผมไม่มีโอกาสได้เป็นตัวแทนทีมชาติเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมลงแข่งขันในนามทีมชาติ ในการแข่งขัน 8 รายการหลังสุด ผมทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก มีความกดดันอยู่บ้าง ผมพยายามไม่คิดถึงอันดับโลกที่เป็นเกณฑ์ตัดสินการได้ไปแข่งขันโอลิมปิกมากจนเกินไป แต่ก็พยายามรักษาคะแนนโอลิมปิกแรงกิ้งให้อยู่ใน 60 อันดับแรกไว้” โดยโปรกอล์ฟจากพังงา ตั้งเป้าคว้าเหรียญรางวัลมาคล้องคอให้ได้ในการแข่งขันกอล์ฟโอลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งมีกำหนดประชันวงสวิงระหว่างวันที่ 29 กรกฏาคม – 1 สิงหาคมนี้ เจ้าตัวกล่าวว่า “เป้าหมายของผมคือการคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเหรียญใดเหรียญหนึ่ง ผมต้องตั้งเป้าให้สูงไว้ก่อน แม้ต้องสู้กับเหล่านักกอล์ฟฝีมือระดับชั้นนำของโลก”
สำหรับ กัญจน์ เป็นหนึ่งในสองตัวแทนนักกอล์ฟชายจากประเทศไทยร่วมกับ “โปรแจ๊ส” อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ที่ได้สิทธิ์ร่วมแข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 32 และเป็นหนึ่งใน 7 นักกอล์ฟจากเวทีเอเชียนทัวร์ ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ โดยในการแข่งขันริโอเกมส์ 2016 ที่กรุงริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล กีฬากอล์ฟกลับมาสู่เวทีโอลิมปิกอีกครั้งหลังห่างหายไป 112 ปี ซึ่งมี ธงชัย ใจดี และกิรเดช อภิบาลรัตน์ เป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมแข่งขัน โดย กิรเดช ทำผลงานได้น่าประทับใจจบอันดับ 5 ร่วม
โดยกัญจน์ เดินทางไปญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนมีนาคม เพื่อเข้าร่วมแข่งขันในเจแปนกอล์ฟทัวร์ ปัจจุบันรั้งอันดับที่ 37 ของอันดับทำเงินรางวัลสะสมในเจแปนกอล์ฟทัวร์ และไม่ผ่านการตัดตัวเพียงครั้งเดียวในการลงเล่น 11 รายการในฤดูกาล 2020/2021 ผลงานดีที่สุดคือจบอันดับ 8 ร่วมในรายการ ดันล็อป ซิกซอน ฟูกุชิมา โอเพน ทำให้ไม่ต้องปรับตัวมากในการเข้าร่วมชิงชัยในโอลิมปิกที่โตเกียว แต่เจ้าตัวเผยรู้สึกคิดถึงบ้าน และคิดถึงครอบครัว
กัญจน์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นโรคโฮมซิก แต่ก็เกิดขึ้น ผมไม่ได้เจอครอบครัวมา 4 เดือนแล้ว ตอนนี้ผมเข้าใจว่าเพราะอะไร พรหม มีสวัสดิ์ จึงไม่มาแข่งขันที่ญี่ปุ่น เขาบอกว่าเขาไม่อยากจากบ้านจากครอบครัวไปนานๆ แต่นี่เป็นช่วงเวลาที่พิเศษและเป็นโอกาสที่จะได้เล่นโอลิมปิกและอีกหลายรายการในญี่ปุ่น ซึ่งช่วยชดเชยความรู้สึกคิดถึงบ้านคิดถึงครอบครัวลงได้บ้าง”
ส่วนผลงานในฤดูกาลนี้ กัญจน์ระบุว่าค่อนข้างผิดหวังกับฟอร์มการเล่นตัวเอง และส่วนหนึ่งน่าจะมาจากปัญหาบาดเจ็บที่นิ้วหัวแม่มือ ซึ่งเกิดขึ้นตอนที่พยายามตีสไตล์ ไบรสัน เดอชอมโบ
“ผมพยามตีแบบเดอชอมโบระหว่างการแข่งขันเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ปัญหาคือวงสวิงของผมชันเกินไป ยิ่งใส่พลังออกแรงเหวี่ยงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งชันและทำให้มีอาการตึงและเคล็ดที่นิ้วหัวแม่มือ ตอนนี้เล่นได้เต็มที่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ยังสวิงเต็มแรงไม่ได้ ผมไม่รู้จักนักกายภาพบำบัดที่นี่ ที่รู้จักคนหนึ่งเป็นหมอฝังเข็ม ซึ่งผมได้ไปรักษากับหมอฝังเข็มในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำการรักษา 2-3 ครั้ง แต่ได้รับคำแนะนำว่าการรักษาที่ดีที่สุดคือต้องหยุดพัก”
ทั้งนี้กัญจน์ มีโปรแกรมลงแข่งอีก 2 รายการก่อนลุยโอลิมปิกเกมส์ 2020 และมีสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งที่อำนวยความสะดวกสำหรับการฝึกซ้อมและการแข่งขัน 2-3 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่โอลิมปิกบับเบิ้ล
“ผมเฝ้ารอที่จะได้เข้าร่วมหมู่บ้านโอลิมปิก ซึมซับบรรยากาศและได้เห็นนักกีฬาประเภทอื่นๆ แต่คงจะมีข้อจำกัดและเข้มงวด ผมได้ยินมาว่าฝ่ายจัดการแข่งขันไม่อนุญาตให้ไปดูกีฬาชนิดอื่นๆได้ และผมอยากจะเห็นการทำงาน การฝึกซ้อมของกีฬาชนิดอื่น”
กัญจน์ เผยอีกว่าตนไม่เคยลงเล่นที่สนามคาซึมิกาเซกิ คันทรี คลับ สังเวียนประชันวงสวิงในโอลิมปิกครั้งนี้ เพราะสนามไม่เคยจัดการแข่งขันรายการใด แต่ได้ศึกษาข้อมูลสนามจากเว็บไซต์
“ตอนนี้ผมรู้สึกโอเค แต่เมื่อเข้าสู่หมู่บ้านโอลิมปิก คงจะมีเรื่องให้น่าตื่นเต้นประหลาดใจไม่น้อยทีเดียว” กัญจน์ กล่าวทิ้งท้าย