“รมว.ธรรมนัส” ยืนยัน แม้กระทรวงเกษตรฯ มีงบฯ ปี 68 จำกัดแต่มีแผนดำเนินการใช้จ่ายตรงจุด เพื่อแก้ปัญหาของพี่น้องชาวเกษตรกร เผยข่าวดี มีกำหนดการไปลงนามบันทึกข้อตกลงส่งออกโคเนื้อ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย

“รมว.ธรรมนัส” ยืนยัน แม้กระทรวงเกษตรฯ มีงบฯ ปี 68 จำกัดแต่มีแผนดำเนินการใช้จ่ายตรงจุด เพื่อแก้ปัญหาของพี่น้องชาวเกษตรกร เผยข่าวดี มีกำหนดการไปลงนามบันทึกข้อตกลงส่งออกโคเนื้อ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย คาด! ไม่เกิน 3 เดือนเริ่มส่งออกเป็นครั้งแรกในปประวัติศาสตร์

วันที่ 21 มิ.ย. 2567 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่สอง สมัยวิสามัญเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวแจงงบประมาณของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อดูแลประชากรทั้งสิ้น 30 ล้านคน แต่ได้งบประมาณ 125,882.1283 ล้านบาท ภายใต้ข้อข้อกำจัดของบประมาณแผ่นดินต้องยอมรับว่าเรามีงบประมาณเท่านี้ จึงต้องแบ่งคัดสรรเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด

“เราต้องดูภาพปัญหาของเกษตรกรส่วนใหญ่ว่าคืออะไร เพื่อนำปัญหาเหล่านั้นมา เป็นโจทย์เพื่อของบประมาณ แต่ด้วยกรอบระยะเวลาไม่สามารถใส่ในแผนของหน่วยงานหลักที่ดูแลเรื่องน้ำได้ โดยกรมชลประทานถือเป็นหน่วยงานผู้ปฏิบัติ ในการนำนโยบายการบริหารจัดการน้ำไปปฏิบัติในพื้นที่ ซึ่งประเทศไทยมีพื้นที่เพียง 60.29 ล้านไร่ ที่เหมาะสมกับการเป็นพื้นที่ชลประทาน”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ดังนั้นต้องแก้ไขกฎหมายก่อน เพื่อให้เข้ากับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ต้องแบ่งเกษตรกรเป็นกลุ่มๆ จะใส่ไปแบบเหมารวมหรือตัดเสื้อโหลไม่ได้เด็ดขาด พี่น้องเกษตรกรที่มีความเข้มแข็งต้องส่งเสริมให้สร้างสินค้าการเกษตรที่มีคุณภาพ และส่งเสริมการส่งออกโดยไม่ต้องพึ่งพาภาครัฐ แต่รัฐต้องอำนวยความสะดวกในเรื่องการส่งออก ส่วนเกษตรกรที่มีความเข้มแข็งปานกลาง ต้องส่งเสริมการใช้นวัตกรรมการแปรรูป และมีตลาดที่นำสินค้าไปขาย โดยต้องยอมรับว่า ความแปรปรวนทางสภาพอากาศ ส่งผลต่อเกษตรกรกลุ่มเปราะบาง จึงต้องจำแนกกลุ่มนี้ออกและไปส่งเสริมให้ฟื้นฟูทำการเกษตรในระดับกลางให้ได้

“ภาคการเกษตรมีปัญหามากมายที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลายาวนาน รัฐบาลที่แล้วพยายามแก้ไขแต่แก้ไม่ได้ โดยรัฐบาลนี้ใช้เวลาไม่กี่เดือนก็สามารถปรับราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้นได้ ราคาข้าวก็ดีขึ้น ราคายางพาราก็ดีขึ้น ซึ่งเป็นความหวังของคนไทย”ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้ำ

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงการส่งออกโคเนื้อไปประเทศซาอุดีอาระเบียสำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยตอบรับการนำเข้าโคเนื้อไปได้ ซึ่งขณะนี้กำลังหารือว่าส่งทางเรือจะต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้ว และตนเองก็มีกำหนดการเดินทางไปที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อไปบันทึกข้อตกลง โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือนเราจะสามารถส่งโคมีชีวิตไปยังประเทศตะวันออกกลางเริ่มต้นที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย รวมถึงมีการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านเกี่ยวกับโคเนื้อ ทั้งเวียดนาม มาเลเซีย ลาว และกัมพูชา ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมศุลกากรให้ขยายเวลาในการเปิดด่านเพื่อส่งสินค้า

 

 

 

ขณะที่เรื่องงบประมาณในการจัดซื้อวัคซีนที่ใช้ในภาคปศุสัตว์มี 2 ประเภท คือ เชื้อเป็น กับเชื้อตาย โดยเราจัดตั้งการของบประมาณซื้อวัคซีนเชื้อเป็นจากต่างประเทศไป 5 ล้านโดส แต่ได้รับเพียง 2 ล้านกว่าโดส เมื่อเห็นว่างบประมาณมีจำนวนจำกัด เราก็น้อมรับเพื่อทำให้สัตว์ปลอดโรค และขณะนี้เรากำลังพัฒนาวัคซีนแบบเชื้อเป็นในประเทศ

ส่วนจำนวนผู้เลี้ยงโคนมที่ลดลง ซึ่งเกิดจากปัญหาโรคปากเปื่อยเท้าเปื่อย ทำให้พี่น้องเกษตรกรกลุ่มที่ยังไม่แข็งแรง ล้มเลิก เนื่องจากการติดเชื้อเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งเราจะต้องกำจัดปัญหาเหล่านี้ให้สิ้นซาก

“เราจะสร้างความเข้มแข็งโดยเพิ่มรายได้ภายในปี 2570 ให้เป็น 3 เท่าตามที่รัฐบาลได้วางเป้าเอาไว้ ภายใต้การขับเคลื่อนของรัฐบาลและการตรวจสอบของฝ่ายค้าน จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องทำงานแบบไตร่ตรองให้ดี ทำงานให้จริงจัง ใส่ใจต่อพี่น้องเกษตรกร” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

#ธรรมนัสพรหมเผ่า #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ #งบประมาณของกระทรวงเกษตร #การประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่สอง #งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2568 #ข่าวการเมือง #MissionThailand

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

ลับสมอง "คนข่าว" สำนักประชาสัมพันธ์เขต 7 จันทบุรี จัด workshop ใช้ AI ประยุกต์ใช้ใน "งานข่าว" พร้อมรับมือการแข่งขันยุคดิจิทัล

ลับสมอง “คนข่าว” สำนักประชาสัมพันธ์เขต […]

You May Like

Subscribe US Now